มีใครเคยเสียดายตอนกดจ่ายภาษีตอนปลายปีเหมือนกันบ้างไหมคะ? แล้วรู้ไหมว่าบางครั้งเราอาจไม่ต้องจ่ายภาษีราคาแพงเสมอไปถ้าวางแผนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาให้ดีๆ ด้วย “วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา” ซึ่งอาจทำให้เราจ่ายภาษีในอัตราที่ถูกลง หรือบางครั้งไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายถ้าวางแผนไว้ก่อนสิ้นปี ลองมาอ่านบทความนี้ นุชจะสรุปวิธีลดหย่อนภาษีบุคคลประจำปี 2568 วิธีกรอกแบบภาษีอย่างถูกต้อง พร้อมสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนห้ามพลาดมาฝากค่ะ
วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา คืออะไร?
ค่าลดหย่อนภาษี คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ที่มีรายได้สามารถนำไปหักออกจากเงินได้ทั้งหมดก่อนเอาไปคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อให้เราเสียภาษีน้อยลง หรืออาจช่วยให้ได้เงินคืนภาษี
ในแต่ละปีค่าลดหย่อนภาษีบุคคลจะมีแตกต่างกันไปตามกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล ทำให้ค่าลดหย่อนนี้ไม่ได้มีระบุไว้แค่ในประมวลรัษฎากรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มาจากกฎกระทรวง หรือประกาศอธิบดีได้อีกด้วยค่ะ

วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา คือ การวางแผน รวบรวมสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ใช้ในระหว่างปี และกรอกแบบในขั้นตอนยื่นแบบภาษีบุคคลธรรมดาให้ครบถ้วน (ถึงมีแล้วกรอกไม่ครบ ก็ไม่ได้สิทธิ์นะจ๊ะ)
ตัวอย่างเช่น
- นาย A เป็นพ่อหม้าย ลูกติด แถมยังต้องเลี้ยงดูพ่อแม่วัยชรา
- นาย B ที่เป็นหนุ่มโสด ยังไม่มีแฟน พ่อแม่มีรายได้
ตามหลักการแล้ว นาย A จะมีสิทธิลดหย่อนภาษีได้มากกว่านาย B (เพราะชีวิตดูเศร้าเหลือเกิน) แต่ถ้านาย A ไม่ยอมกรอกข้อมูลตอนยื่นภาษี ก็อาจจะพลาดสิทธิประโยชน์นั้นไปแบบน่าเสียดาย
รวมค่าลดหย่อนภาษี 2568
ค่าลดหย่อนภาษีประจำปี 2568 นี้ รัฐได้อัปเดตวิธีลดหย่อนภาษีบุคคลรูปแบบใหม่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายของผู้เสียภาษี มาดูกันดีกว่าว่า ค่าลดหย่อน 2568 ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง?

1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
| รายการลดหย่อนภาษี | จำนวนที่ลดหย่อนได้ |
| ค่าลดหย่อนส่วนตัว | 60,000 บาท |
| ค่าลดหย่อนคู่สมรส | 60,000 บาท / คน |
| ฝากครรภ์ และคลอดบุตร | 60,000 บาท / ครรภ์ |
| บุตรชอบด้วยกฎหมาย บุตรบุญธรรม | 30,000 บาท / คน (ไม่จำกัดจำนวนคน) บุตรตั้งแต่ คนที่2 เกิดในหรือหลัง พ.ศ.2561 หักเพิ่มได้อีก คนละ 30,000 บาท/คน (ไม่จำกัดจำนวนคน) * หากมีบุตรชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 3 คน จะนำบุตรบุญธรรมมาหักด้วยไม่ได้ * หากบุตรชอบด้วยกฎหมายมีน้อยกว่า 3 คน สามารถนำบุตรบุญธรรมมาหักเพิ่มได้ แต่รวมกับบุตรชอบด้วยกฎหมายแล้วต้องไม่เกิน 3 คน (บุตรบุญธรรมจะเพิ่มได้เพียง 1-2 คนเท่านั้น) |
| เลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส (บิดามารดาต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป และรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท) | หากดูแลเฉพาะครอบครัวตัวเอง ลดหย่อนได้คนละไม่เกิน 30,000 บาท / คน (บิดาและมารดาตัวเอง) รวมไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี หากดูแลครอบครัวของคู่สมรสด้วย จะลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท / คน (บิดาและมารดาตัวเองและคู่สมรส) รวมไม่เกิน 120,000 บาทต่อปี |
| อุปกระผู้พิการ หรือทุพพลภาพ (รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท) | 60,000 บาท |
2. ค่าลดหย่อนประกัน เงินออม และการลงทุน
| รายการลดหย่อนภาษี | จำนวนที่ลดหย่อนได้ |
| ประกันสังคม | สูงสุด 9,000 บาท |
| ประกันชีวิต และประกันแบบสะสมทรัพย์ | ไม่เกิน 100,000 บาท (ต้องถือแผนกรมธรรม์เกิน 10 ปี และทำกับบริษัทประกันในประเทศไทย) |
| ประกันสุขภาพ | ไม่เกิน 25,000 บาท แต่ถ้าจะรวมกับประกันชีวิต / สะสมทรัพย์ด้วย ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท |
| เงินประกันสุขภาพของบิดามารดาผู้มีเงินได้และคู่สมรส (พ่อแม่รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท) | ไม่เกิน 15,000 บาท |
| เงินประกันชีวิตแบบบำนาญ | ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 200,000 บาท หากจะรวมการออมและกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท |
| กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ กบข./ สงเคราะห์ครูฯ | 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท หากรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ จะลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท |
| กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) | 30% ของเงินได้ หากรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ จะลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท |
| กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) | ไม่มีแล้วในปี 2568 |
| กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) | ลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท หากรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ จะลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท |
| กองทุน ThaiESG | สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาท |
| กองทุน ThaiESGX (สับเปลี่ยนจาก LTF) | สูงสุด 300,000 บาท (สับเปลี่ยนระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568) ปี 2569 – 2572: ส่วนที่เหลืออีก 200,000 บาท สามารถทยอยใช้สิทธิได้ |
| กองทุน ThaiESGX (เงินลงทุนใหม่) | สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาท (ลงทุนได้ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568) |
| เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม) | 100,000 บาท |
3. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ
| รายการลดหย่อนภาษี | จำนวนภาษีที่ลดหย่อนได้ |
| ค่าลดหย่อน Easy E-Receipt 2.0 | ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท |
| ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย | ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท |
| ค่าสร้างบ้านใหม่ 2567 – 2568 | 10,000 บาท / จำนวนค่าก่อสร้างที่จ่ายจริงทุก 1 ล้านบาท แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
| ติด Solar Rooftop ในบ้าน | ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 200,000 บาท (ใหม่! ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีค่ะ) |
| เที่ยวดีมีคืน 2568 | ค่าบริการที่พัก เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ และค่าอาหารจากร้านค้าที่สามารถออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เที่ยวเมืองหลัก: หักลดหย่อนได้ 1 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง เที่ยวเมืองรอง: หักลดหย่อนได้ 1.5 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว ช่วงเวลาที่สามารถใช้สิทธิ์: ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นภายในวันที่ 29 ตุลาคม ถึง 15 ธันวาคม 2568 |
4. ค่าลดหย่อนกลุ่มบริจาค
| รายการลดหย่อนภาษี | จำนวนภาษีที่ลดหย่อนได้ |
| เงินบริจาคทั่วไป เช่น บริจาคให้วัด หรือมูลนิธิ | ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มอื่น ๆ |
| เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลรัฐ | 2 เท่าของเงินบริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มอื่น ๆ |
| เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง | ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 10,000 บาท |
สำหรับคนที่อยากอ่านแบบละเอียดๆ พร้อมภาพ Infographic ลองไปดูต่อที่นี่เลย: มัดรวมวิธีลดหย่อนภาษี Update ประจำปี
วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา กรอกอย่างไรตอนยื่นแบบ?
หลังจากที่ได้รู้จักกับค่าลดหย่อนภาษีแต่ละประเภทกันไปแล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ เพราะว่าทุกคนจะต้องกรอกแบบภาษีเพื่อระบุข้อมูลการลดหย่อนให้ถูกต้องด้วยค่ะ เพื่อได้ประโยชน์จากการลดหย่อนแบบครบถ้วนสุดๆ
วิธีกรอกแบบลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ
1. เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร
ไปที่ https://efiling.rd.go.th/rd-cms/ > “ยื่นภาษีออนไลน์” > สำหรับใครที่ยังไม่เป็นสมาชิก ให้สมัครสมาชิกก่อน จากนั้นใส่ข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบ
2. เลือกแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- เลือก ภ.ง.ด. 90 สำหรับคนมีรายได้เงินเดือน + รายได้อื่นๆ นอกจากเงินเดือนประจำ
- เลือก ภ.ง.ด. 91 สำหรับคนมีรายได้เงินเดือนเท่านั้น
จากนั้นใส่ข้อมูลส่วนตัวผู้ยื่นภาษี
3. กรอกข้อมูลเงินได้ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
เลือกประเภทรายได้ที่มี จากนั้น
- กรอกข้อมูลเงินได้ (รายได้) ทั้งหมดของตัวเองใน 1 ปีลงไป โดยระบุแหล่งของรายได้ที่อ้างอิงเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้จ่ายเงินไว้ด้วย
- กรอกข้อมูลค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเงินได้แต่ละประเภทในขั้นตอนเดียวกัน
4. กรอกค่าลดหย่อนภาษี

4.1 กลุ่มภาษีส่วนตัวและครอบครัว
สำหรับการยื่นค่าลดหย่อนของหมวดนี้ จะมีข้อมูลให้กรอกข้อมูลแต่ละช่องว่าเป็นค่าอะไรบ้าง เช่น
หากว่ามีบุตร ให้กดตรงคำว่า ระบุข้อมูล ของบุตรเพื่อทำการลดหย่อนเพิ่มเติม
โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ ได้แก่
- ชื่อสกุล
- เลขบัตรประชาชน
- วันเดือนปีเกิด (บุตร)
- หนังสือรับรองการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
- บัตรประจำตัวของคนพิการ


4.2 กลุ่มการออม การลงทุน และประกัน
สำหรับการยื่นค่าลดหย่อนของหมวดนี้ จะมีข้อมูลให้กรอกมูลค่าจำนวนเงินมีเราซื้อประกันหรือลงทุน เช่น
พนักงานบริษัทจะต้องมีการหัก ประกันสังคมไว้อยู่ เงินส่วนที่หักนั้น เรียกว่า เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ก็สามารถกรอกจำนวนเงินได้เลยตามที่นำส่งจริง 750 x 12 = 9,000 บาทนั่นเอง
โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ ได้แก่
- หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนที่ใช้สิทธิ์ภาษีได้
- หนังสือรับรองการจ่ายชำระเบี้ยประกัน
- ใบเสร็จการรับเงินจ่ายชำระกองทุน/ประกัน
- ใบ 50ทวิ หรือหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่ายจากนายจ้าง ระบุการจ่ายเงินสมทบประกันสังคม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

4.3 กลุ่มมาตรการรัฐ
สำหรับการยื่นค่าลดหย่อนของหมวดนี้ ให้สังเกตดีๆ ก่อนกรอกข้อมูลว่ามีการอัปเดตให้เป็นปัจจุบันสำหรับปีนี้หรือยัง (ตัวอย่างหน้าจอนี้ยังไม่อัปเดตเพราะรอระบบสรรพากร)
โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ ได้แก่
- ใบเสร็จรับเงิน สำหรับดอกเบี้ย ฝากครรภ์ ก่อสร้าง
- E-Tax invoice/E-Receipt สำหรับสินค้าและบริการที่จะใช้สิทธิ์ โครงการ Easy e-receipt

4.4 กลุ่มบริจาค (ไม่รวมพรรคการเมือง)
สำหรับการยื่นค่าลดหย่อนของหมวดนี้ จะมีข้อมูลให้กรอกมูลค่าจำนวนเงินมีเราบริจาคทั่วไป และบริจาคสนับสนุนการศึกษา โณงพยาบาล และสภากาชาด ส่วนพรรคการเมืองจะรวมอยู่ในหมวดมาตรการรัฐ
แต่เมื่อบริจาคแล้ว อาจจะต้องมีเอกสารหลักฐานของการบริจาคด้วย ได้แก่
- ใบอนุโมทนาบัตร
- หนังสือรับรองการบริจาค
แต่ถ้าใครไม่อยากจะต้องไปขอวัด เพราะอาจจะเป็นการทำบุญหวังผล ทางสรรพากรก็มีระบบ e-donation สรรพากร ถ้าบริจาคช่องทางนี้ สรรพากรจะมีข้อมูลของเราขึ้นโชว์อัตโนมัติให้เลยค่ะ

วางแผนบริจาคแต่เนิ่นๆ
*** ค้นหารายชื่อสถานศึกษาที่สามารถหักลดหย่อนเงินบริจาคได้ 2 เท่า***
*** ค้นหารายชื่อสถานพยาบาลที่สามารถหักลดหย่อนเงินบริจาคได้ 2 เท่า***
เรื่องที่มักเข้าใจผิดบ่อยเกี่ยวกับค่าลดหย่อนภาษี
การได้รู้วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาเป็นเรื่องดีค่ะ แต่ถ้าบางคนเข้าใจการลดหย่อนภาษีแบบผิด ๆ ไป อาจทำให้การวางแผนภาษีผิดพลาด และไม่สามารถหักค่าภาษีได้ตามที่ตั้งใจไว้ได้ค่ะ นี่คือ 4 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการยื่นภาษีที่หลายคนมักจะตกม้าตายอยู่บ่อย ๆ ค่ะ
1. ค่าลดหย่อนภาษี = ค่าใช้จ่ายภาษี
สองคำนี้ความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยค่ะ แม้ว่าจะเป็นตัวที่เอาไปหักออกจากเงินได้ก็ตาม
- ค่าลดหย่อนภาษี คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กฎหมายมอบให้ ขึ้นอยู่กับสถานภาพ และภาระของผู้เสียภาษีคนนั้น ๆ
- ค่าใช้จ่าย คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กฎหมายมอบให้ ขึ้นอยู่กับประเภทเงินได้ที่คนนั้นได้รับ เช่น รายได้ประเภทเงินเดือน 40(1) จะหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ไม่เกิน 100,000 บาท
ดังนั้น อย่าเอาสองเรื่องนี้ไปปนกันนะ
2. ค่าลดหย่อนภาษี หักลบแล้วจะเสียภาษีลดลงตามจำนวนที่จ่ายไป
เรื่องนี้เข้าใจผิดบ่อยมากค่ะ เช่น ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไป 20,000 จะเสียภาษีน้อยลง 20,000 ไม่ใช่เลยนะคะ ความจริงแล้วจะเสียภาษีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าในหนึ่งปีมีรายได้เท่าไหร่ และต้องจ่ายด้วยอัตราภาษีร้อยละเท่าไหร่ต่างหากค่ะ
เช่น ปีนี้อัตราภาษีของเราอยู่ที่ 5% ถ้าจ่ายเงินค่าลดหย่อนไป 20,000 บาท จะช่วยให้ภาษีลดลง 20,000 * 5% = 1,000 บาท
3. สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป = ค่าลดหย่อนภาษี
สิทธิประโยชน์ภาษี 190,000 บาทของผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้พิการ จะไม่เรียกว่าค่าลดหย่อนภาษีค่ะ แต่จะเรียกว่า “เงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี” แทนจ้า
4. ค่าลดหย่อนภาษี ต้องมีเยอะๆ ถึงจะดี
ถึงค่าลดหย่อนภาษีจะช่วยประหยัดค่าภาษีที่ต้องจ่ายได้จริง แต่อย่างที่บอกไปว่าจำนวนภาษีที่ประหยัดของเราเท่ากับ เงินที่จ่ายไป x อัตราภาษี ถ้าทุกวันนี้เพื่อนๆ ยังใช้เงินแบบเดือนชนเดือน แนะนำว่าบริหารเงินในกระเป๋าให้ดีเสียก่อน ที่จะไปคิดเรื่องการลดหย่อนภาษี เพราะนี่อาจเป็นกับดักทำให้เราใช้จ่ายเกินจริงเพื่อประโยชน์ทางภาษี จนไม่มีเงินใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
สรุป
วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดามีให้เลือกมากมายหลากหลายวิธี เมื่อดูและวางแผนเรียบร้อยแล้วว่าจะลดหย่อนภาษีด้วยวิธีใด อย่าลืมเตรียมเอกสารไว้ และกรอกข้อมูลในขั้นตอนการยื่นภาษีเว็บไซต์ของกรมสรรพากรให้ครบถ้วนด้วย แต่ทั้งนี้ ก่อนจะวางแผนลดหย่อนภาษี ควรทำความเข้าใจวิธีการแต่ละแบบดี ๆ และภาษีที่ตัวเองลดได้จริงๆ ว่าเป็นเท่าใดเสียก่อนนะคะ
หากใครอยากลองคำนวณภาษีด้วยตนเอง และยื่นภาษีบุคคลธรรมดาเอง อ่านเพิ่มเติมที่ลิงค์นี้เลย
วางแผนภาษีบุคคลธรรมดา ใช้บริการยื่นภาษีสำหรับมือใหม่ ติดต่อ Line: @zerotoprofit
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit


