ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักอาชีพขายของออนไลน์ นี่เป็นหนึ่งอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะอยากขายอะไรก็ได้ ไม่ต้องตอกบัตรเข้าทำงาน มีความอิสระที่แท้ทรู แต่ว่ารู้กันมั้ยว่าการขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ นอกจากขายเก่ง Live เป็นหรือมีช่องทางการขายมากมายหลายแพลตฟอร์มแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ เราจะต้องรู้ว่าจะขายของออนไลน์เริ่มต้นยังไง ให้บัญชีไม่มั่ว
เพราะปัญหาหนักอกของแม่ค้าออนไลน์ที่ยอดขายปังๆ อาจไม่ใช่เรื่องการตลาด แต่เป็นเรื่องการจัดการบัญชี
ถ้าวันนี้คุณกำลังคิดจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ หรือเป็นแม่ค้าออนไลน์อยู่ แต่หนักใจไม่รู้จะจัดการเรื่องบัญชีอย่างไร Zero to Profit จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจ6 เรื่องบัญชีที่แม่ค้ามือใหม่ต้องรู้ เพื่อเตรียมตัวเปิดร้านรับออเดอร์รัวๆ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า
1. แยกบัญชีขายของออนไลน์ไว้ต่างหาก
ไม่ว่าจะขายของอะไร ร้านค้าเล็กหรือใหญ่ การแยกบัญชีร้านค้าออนไลน์ออกมาจากบัญชีส่วนตัวเป็นเรื่องแรกที่ต้องทำบัญชีนี้จะต้องเป็นบัญชีที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับการขายของแบบออนไลน์เท่านั้น (ห้ามเอาไปเลี้ยงข้าวแฟนเด็ดขาด)ถ้าใครยังสงสัยว่าเรื่องบัญชีร้านค้าขายของออนไลน์เริ่มยังไง ไม่ต้องคิดเยอะให้ทำตาม Step นี้ได้เลย
- ใส่เงินลงทุนเริ่มแรก 1 ก้อน
- จ่ายเงิน – ไม่ว่าจะเป็นค่าซื้อของ ถ่ายรูป ค่าธรรมเนียมเปิดร้าน ค่า GB ก็ให้ตัดจากบัญชีนี้ทั้งหมด
- รับเงิน – ผูกบัญชีรับเงินกับ Platform ออนไลน์ต่างๆ เช่น Lazada, Shopee
ข้อดีของการแยกบัญชีเงินฝากสำหรับขายของออนไลน์โปรเจคนี้ไว้ มันจะช่วยเตือนใจว่าเงินที่เหลือจากการทำธุรกิจมีเท่าไร และรับเข้า-ออกจากอะไร
ส่วนถ้าใครแอดวานซ์ขึ้นไปอีก อยากจะจัดการบัญชีเงินรับ-จ่ายแยกต่างหากออกจากก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยศึกษาเพิ่มเติมจากบทความนี้ได้เลย : สรุปวิธีจัดการบัญชีธนาคารเบื้องต้น สำหรับคนเริ่มธุรกิจ
2. จดทะเบียนทุกอย่างให้เรียบร้อย
มีคนเคยสอนไว้ว่า ถ้าริอาจจะทำธุรกิจสิ่งหนึ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด ก็คือ “ห้ามทำผิดกฎหมาย”
เพราะการทำผิดกฎหมายเพียงหนึ่งครั้งอาจทำให้เราต้องเจอค่าปรับอย่างมหาศาล จนกำไรที่ทำมาหดหาย มีแต่ขาดทุนก็เป็นได้
ขายของออนไลน์เริ่มยังไงให้ถูกกฎหมาย เราต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง ลองเช็คด้านล่างนี้เลย
1.จดทะเบียนพาณิชย์
“ทะเบียนพาณิชย์”หรือที่หลายคนชอบเรียกติดปากว่า “ทะเบียนการค้า” หมายถึง การจดทะเบียนเพื่อบอกกับคนอื่นว่าเราทำการค้าอะไร ที่ไหน ภายใต้ชื่ออะไร
ร้านค้าออนไลน์ทุกร้านต้องเริ่มต้นจดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่เริ่มประกอบกิจการ
จดทะเบียนพาณิชย์ทำได้ง่ายๆ ที่สำนักงานเขต เทศบาลหรือ อบต. ให้เรียบร้อย ค่าธรรมเนียมก็อยู่ที่ 50 บาทเพียงเท่านั้น
ถ้าใครสงสัยว่า ทะเบียนพาณิชย์คืออะไร? ทำไมคนทำธุรกิจต้องรู้จัก ลองคลิกอ่านเพิ่มเติม และในนั้นมีสอนวิธีจดทะเบียนพาณิชย์ด้วยนะ
2. จดภาษีมูลค่าเพิ่ม
หมายถึง การจดทะเบียนเพื่อเรียกเก็บภาษีจากการขาย 7% นำส่งให้สรรพากร
เคสนี้ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่บังคับสำหรับคนที่รายได้เข้าเงื่อนไขของการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) มี 2 นี้เท่านั้น
- เป็นรายได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้น เช่น ขายหนังสือออนไลน์ ขายพืชผัก
- รายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทต่อปี
ถ้าเข้าใจประเภทรายได้ และจำนวนรายได้ที่มี แน่นอนว่าจะรู้ตัวทันทีว่าก่อนเปิดร้านจะต้องไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
อัปเดทในปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจแบบบุคคลธรรมดาใช้คอนโดจด VAT ได้แล้วแบบไม่ยาก ศึกษาขั้นตอนเพิ่มเติมได้ที่นี่: ใช้คอนโดจด VAT ได้ ต้องทำยังไงบ้าง?
โดยสรุปแล้ว สองทะเบียนนี้เป็นเรื่องที่คนเริ่มต้นขายของออนไลน์ต้องทำความเข้าใจ อย่างที่เราเคยได้ยินว่า ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด เราก็ยังออกจากบ้านไม่ได้….โถ
3. เข้าใจรายได้-ค่าใช้จ่าย
ขายของออนไลน์เริ่มยังไงถึงมีกำไร แม่ค้าทั้งหลายต้องตั้งสติแล้วทำความเข้าใจรายได้-ค่าใช้จ่ายของตัวเองเสียก่อน
การเข้าใจรายได้และค่าใช้จ่ายของร้านค้าตัวเอง ไม่เพียงทำให้เราคำนวณกำไรของร้านค้าได้ แต่ว่ามันช่วยให้เราตัดสินอนาคตร้านค้าได้เพียงแค่วิเคราะห์แว๊บเดียว
วิธีการทำความเข้าใจรายได้-ค่าใช้จ่ายของร้านค้าง่ายๆ เพียงแค่หยิบปากกาแล้วลองแบ่งหน้ากระดาษออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งซ้ายรายได้ และฝั่งขวาค่าใช้จ่าย
จากนั้นลองเขียนรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่มีลงไป และคิดเล่นสักนิดว่าถ้าเราเริ่มต้นขายของออนไลน์บนกระดาษแผ่นนี้เราจะกำไรหรือขาดทุน
รายได้ | ค่าใช้จ่าย |
– ค่าขายสินค้าอะไร – เดือนละกี่บาท | – ค่าต้นทุนมีอะไรบ้าง เท่าไร – ค่าใช้จ่ายในการขาย มีอะไรบ้าง – ค่าใช้จ่ายในบริหารอื่นๆ มีอะไรบ้าง |
บางคนคิดไปคิดมาแล้วอาจพบว่า อั๊ยหยา อั้วขาดทุนนี่หว่า ทำให้ตัดสินใจได้ว่ายังไม่เริ่มเปิดร้านตอนนี้ก็ยังทัน
เพราะปัญหาที่มักจะพบกับเจ้าของร้านออนไลน์ส่วนใหญ่ คือ โดนค่าใช้จ่ายในการขายไปเยอะมาก จนไม่เหลือกำไรไว้ให้ตัวเอง
ค่าใช้จ่ายในการขาย คือ ค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปให้สินค้าขายได้ ขายเร็ว และขายดี หรือบางทีอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น
- ค่าคอมมิชชั่น หรือ GP ที่จ่ายให้เจ้าของ platform ขายของออนไลน์ต่างๆ
- ค่าขนส่งสินค้า
- ค่าธรรมเนียมรูดบัตรเครดิต หรือให้ลูกค้าผ่อนบัตรเครดิต
4. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
ถ้าใครเป็นแม่ค้ามือใหม่ ยอดรายได้ยังไม่เยอะมาก หรืออยู่ในระหว่างเริ่มต้น ยังไม่ได้จดเป็นบริษัท การทำบัญชีรายได้รับ-รายจ่าย เป็นเรื่องที่เราทำเองได้ โดยไม่ต้องจ้างสำนักงานบัญชี
ข้อดีของการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย มันจะทำให้เรามั่นใจว่ามีกำไรในทุกๆ วันที่ทำธุรกิจ
และที่สำคัญการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นหลักฐานชั้นดีในการยื่นภาษีส่วนบุคคลตอนปลายปีด้วยเช่นกัน
ทำบัญชีขายของออนไลน์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ดูที่นี่
5. คุมสต๊อกสินค้าให้เป็นระบบ
สต๊อกสินค้านั้นเป็นปัญหาของแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คน เพราะเราลงทุนซื้อสินค้ามาตุนไว้ แต่ในบางครั้งมันก็ไม่ได้ยอดขายปังอย่างที่คิด หรือในบางทีขายดีมาก ลูกค้า CF รัวๆ แต่แม่ค้าเองไม่รู้ว่าเหลือสต๊อกสินค้าเท่าไร ทำให้เสียโอกาสในการขายถ้าสั่งของมาไว้ไม่เพียงพอ
ฉะนั้น นอกจากจะขายของเก่งแล้ว อย่าลืมทำรายงานคุมสต๊อกสินค้าอย่างสม่ำเสมอ จะได้วางแผนสั่งซื้อแบบไม่ขาดมือ หรือตัดสินใจเคลียร์สินค้าที่ล้นมือได้ง่ายขึ้น
ลองอ่านสรุปวิธีจัดการสต๊อกสินค้าอย่างง่าย (ด้วยตัวเอง)
6.วางแผนภาษี
เรื่องสุดท้ายที่อยากฝากไว้สำหรับแม่ค้าออนไลน์ก็คือ เรื่องการวางแผนภาษีร้านค้าออนไลน์ เพราะเรื่องนี้เป็นหนามยอกอกแม่ค้าทั้งหลายที่เปิดหน้าร้านออนไลน์ live สดรัวๆ และพี่ๆ สรรพากรเองก็เช็คข้อมูลได้ง่ายเสียเหลือเกิน เพราะเค้าเข้า Shopee, Lazada, Facebook ก็เช็คได้ว่าเราลูกค้าเยอะไหม และที่สำคัญการขายของออนไลน์ต้องรับเงินแบบโอนเท่านั้น จึงมีหลักฐานการรับเงินเบ็ดเสร็จใน Bank Statement
แต่ยังไงก็ตาม แม่ค้าออนไลน์ต้องจำไว้ว่าจะไม่มีใครสามารถวางแผนภาษีให้เราได้เลย ถ้าเราไม่มีข้อมูลเหล่านี้
- รายได้เท่าไร
- ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง
ฉะนั้น สิ่งที่ Zero to Profit ย้ำอยู่เสมอว่าการจดบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นเรื่องสำคัญ มันจะหน้าที่ได้สมบูรณ์ก็ตอนนี้ล่ะค่า
จบไปแล้วกับ ขายของออนไลน์เริ่มยังไง 6 เรื่องบัญชีที่แม่ค้ามือใหม่ต้องรู้ นอกจากจะขายของเก่ง พรีเซนต์ปัง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การทำความเข้าใจและวางระบบบัญชีและภาษีร้านค้าให้เรียบร้อยเสียก่อน
บัญชีที่ดีก็เหมือนการสร้างรากฐานงานหลังบ้านที่แข็งแรง ถึงแม้ฝนจะตกหนักเท่าไร ฟ้าจะร้องแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรทำให้บ้านเราพังไปต่อหน้าต่อตาอย่างแน่นอน แต่เรื่องน้ำจะท่วมหรือไม่อันนี้ Zero to Profit ไม่มั่นใจเหมือนกันนะคะ อิอิ
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/zerotoprofitTH
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit