“อย่าทำเล้ย…ธุรกิจที่มีสต๊อก เสียเวลาเปล่า”
คำเตือนนี้ เจ้าของธุรกิจคงได้ยินอยู่บ่อยๆ แล้วจริงมั้ย ที่การมีสต๊อกจะทำให้เราเสียเวลาไปเปล่าๆ กับธุรกิจ
คำพูดนี้อาจจะจริง สำหรับเจ้าของธุรกิจที่บริหารจัดการสต๊อกไม่เป็น เพราะเราต้องคอยควบคุมสินค้าเข้า-ออก และระมัดระวังอยู่เสมอไม่ให้สต๊อกสินค้าที่ลงทุนไป กลายเป็นรายจ่ายแบบไม่สร้างรายได้เข้ามา
แต่สำหรับคนที่ทำธุรกิจแล้วจัดการสต๊อกเป็น คำพูดที่ว่า “มีสต๊อก แล้วเสียเวลา” คงไม่จริงอย่างแน่นอน
แล้วเราจะเริ่มต้นจัดการสต๊อกยังไงได้บ้างอย่างง่ายๆ ด้วยตัวเอง Zero to Profit สรุปไว้ให้ในคอนเทนต์นี้แล้ว…
เข้าใจสต๊อกสินค้าตัวเองก่อน
ลำดับแรก ตั้งสติ แล้วเริ่มต้นทำความเข้าใจสต็อกสินค้าของธุรกิจเราซะก่อน โดยปกติแล้วธุรกิจที่มีสต็อกปริมาณสินค้าจะเพิ่ม-ลด ด้วย 3 สาเหตุหลักๆ
- เพิ่ม – เพราะซื้อมาเพิ่ม หรือผลิตเสร็จแล้วทำให้สินค้าสำเร็จรูปเพิ่ม
- ลด – เพราะขายของได้ เลยทำให้สต็อกที่เคยนอนนิ่งสนิทอยู่ในคลัง กลายไปเป็นต้นทุนขาย ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับรายได้ธุรกิจ และช่วยให้เราคำนวณกำไรขั้นต้นได้ง่ายๆ จากจุดนี้
- ลดนอกเหนือจากขาย – ถ้าไม่ได้เป็นต้นทุนขาย สต็อกที่ลดลงอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ของเสีย ของหาย (แบบนี้ไม่ดีแน่) หรือของแจก (ที่เราคาดหวังว่าจะสร้างรายได้กลับเข้ามาในอนาคต)
ยิ่งเราเข้าใจการหมุนเวียนของสต็อกได้ดีเท่าไร เราจะไปวิเคราะห์สต็อกในขั้นตอนถัดไปได้ดีขึ้น
6 เรื่องที่เจ้าของกิจการต้องเช็คถ้ามีสต็อกสินค้า
1.ซื้อเมื่อไร = ยิ่งรู้จำนวนซื้อที่แม่นยำ และกำหนดเวลาได้ชัดเจน เราจะประหยัดต้นทุนในการซื้อได้เยอะขึ้น
2.ผลิตเท่าไร = สำหรับธุรกิจผลิต ต้องคาดการณ์จำนวนสินค้าที่ผลิตว่าควรผลิตเท่าไรถึงเพียงพอ และไม่ล้นจนทำให้เกิดปัญหาระบายสต็อกไม่ทัน
3.ขายได้เท่าไร = สินค้าตัวไหนขายดี หรือสินค้าตัวไหนขายไม่ดี ถ้ารู้เรื่องนี้ เราจะวางแผนข้อ [1] และ [2] ได้ดีขึ้น
4.อายุสินค้าเก็บไว้นานแค่ไหน = ถ้าเป็นของเน่าเสียง่าย เราคงไม่อยากเก็บสต็อกไว้นานๆ ใช่ไหม และอีกอย่างถ้าเก็บสต๊อกสินค้าไหนไว้นานๆ เราคงต้องมาปวดหัวกับการระบายของ รวมไปถึงของเสียด้วย
5.ของเสียมีเยอะมั้ย = ถ้าเสียเยอะ เพราะหมดอายุ หรือเสียหายจากการผลิต ไม่มีข้อไหนดีต่อธุรกิจทั้งนั้น ปริมาณของเสียที่เยอะมากๆ เราต้องรีบบริหารจัดการให้อยู่หมัด
6.ของหายบ้างหรือเปล่า = ข้อนี้ก็เป็นเรื่องต้องเช็คเช่นกัน ถ้าของหายบ่อย ต้องย้อนกลับไปดูว่าเราเก็บสินค้าได้ปลอดภัยมั้ย
ทั้ง 6 ข้อนี้เป็นเรื่องต้องเช็คถ้ามีสต๊อกสินค้า ถ้าเช็คแบบนี้ทุกเดือน รับรองว่าของหมดอายุ ของเสีย และของหายน่าจะลดลงจากเดิมแน่นอน
3 รายงานสินค้าที่ช่วยบริหารสต๊อก
ธุรกิจใหญ่ๆ อาจมีสินค้าหลายแบบหลายชิ้น วิธีการที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจรู้สถานะและความเป็นของสินค้าได้ง่ายๆ คือ การทำรายงานสินค้า ซึ่งรู้มั้ยว่าการทำรายงานเราควรทำให้ครบ 3 รายงาน
1.รายงานสรุปสินค้าคงเหลือ
รายงานนี้ช่วยบอกเราได้ว่า ณ วันสิ้นเดือน ธุรกิจมีสินค้าคงเหลืออะไรบ้าง เช่น มีวัตถุดิบคงเหลืออยู่กี่ชิ้น อะไรบ้าง และมีมูลค่าเท่าไร
2.รายงานการเคลื่อนไหวสินค้า
รายงานนี้จะบอกสินค้า ”เข้า-ออก” เป็นจำนวนและมูลค่าเท่าใด ด้วยเอกสารอะไรบ้าง ตั้งแต่ต้นงวดถึงสิ้นงวด
3.รายงานตรวจนับสินค้าคงเหลือ
รายงานนี้ช่วยให้เราเช็คว่า สินค้าในสต็อกที่มีอยู่ ต่างกันกับ สินค้าที่นับได้จริงไหม
การตรวจนับสินค้าเป็นประจำ ข้อดีคือ ทำให้เจอของหมดอายุ ของชำรุด และของหายได้เร็วขึ้น
และถ้าใครอยากรู้จักรายงานสินค้าทั้งสามตัวให้ละเอียดขึ้น ลองไปอ่านในบทความนี้ต่อได้เลย
https://zerotoprofit.co/3-inventories-report/
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีทำความเข้าใจกับสต๊อกสินค้าตัวเอง วิธีเช็คสินค้า และวิธีใช้รายงานสินค้าให้เป็นประโยชน์ ลองใช้เวลาทำความเข้าใจและเริ่มต้นใส่ใจสต๊อกสินค้า แล้วเราจะรู้ว่า “การมีสต๊อกสินค้า ก็ไม่ใช่ปัญหาของเราอีกต่อไป”
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit