สำหรับผู้ที่เริ่มจัดตั้งบริษัทใหม่ๆ เชื่อว่าคงจะรู้จักเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ จด VAT กันอย่างแน่นอน เพราะตัวเลขบวก 7% ที่เราคุ้นเคยนั้น สามารถเห็นได้ทั่วไปในใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี เวลาซื้อสินค้า หรือบริการ เรียกได้ว่าเห็นและรู้จักตั้งแต่จำความได้กันเลยทีเดียว
แต่ใช่ว่าทุกคนจะรู้จักรายละเอียดปลีกย่อยของเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะเรารู้แค่ว่าสินค้าและบริการนั้นๆมีการบวก ภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่รู้เลยว่า เมื่อไหร่ล่ะ ที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรืออาจจะเข้าใจว่า พอจดบริษัท จดทะเบียนพาณิชย์แล้ว หมายถึงเราเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มโดยอัตโนมัติหรือเปล่านะ? วันนี้เรียกได้ว่า คำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ถูกรวมฮิตไว้ที่นี่แล้วค่ะ ไปอ่านกันได้เลย
การจดทะเบียนพาณิชย์ จดบริษัท จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คืออะไร มันต่างกันอย่างไร
จะค้าขายทั้งทีมีหลายเรื่องเลยที่ต้องจดทะเบียน แต่ต้องขอเล่าอย่างงี้ก่อนว่า ทั้งการจดทะเบียนพาณิชย์ การจดบริษัท และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็นคนละเรื่องกัน
1.การจดทะเบียนพาณิชย์
เป็นการจดทะเบียนเพื่อยืนยันว่าเรากำลังดำเนินธุรกิจอยู่นะ ค้าขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายค่ะ ถ้าค้าขายไม่ว่ารูปแบบบุคคลธรรมดา หรือบริษัท ส่วนใหญ่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อยู่แล้ว
สำหรับใครที่สนใจการจดทะเบียนพาณิชย์ ศึกษาต่อได้จากบทความนี้ค่ะ
ทะเบียนพาณิชย์ คืออะไร จดที่ไหน ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
2.การจดบริษัท
อันนี้เป็นการจดทะเบียนเพื่อขอเป็นนิติบุคคลรูปแบบบริษัทค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้บังคับว่าต้องจดทันทีคือ อันนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ถ้าวันนึงเกิดมีหุ้นส่วนอยากทำให้เป็นบริษัทจริงๆ จังๆ ส่วนแบ่งชัดเจน เราก็ค่อยไปจดบริษัทได้
แนะนำให้อ่านบทความนี้ ก่อนตัดสินใจจดบริษัทนะคะ
รวม 10 เรื่องต้องรู้ก่อนจดบริษัท
3. การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
เป็นการจดเพื่อเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามที่กฎหมายภาษีกำหนดไว้ค่ะ ซึ่งเค้าก็จะมีเงื่อนไขว่าธุรกิจแบบไหนต้องเข้าบ้าง และรายได้เท่าไรต้องเข้าบ้างค่ะ
3 อันนี้เป็นคนละเรื่องกัน แต่หลายคนเข้าใจผิดว่ามันคือสิ่งเดียวกันค่ะ
แล้ว VAT คืออะไร และมันเกี่ยวกับบริษัทยังไง ?
VAT ก็คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นภาษีอากรอีกประเภทหนึ่ง ที่เรียกเก็บจากการบริโภคของประชาชน โดยคิดในอัตรา 7% ของราคาขายหรือให้บริการ เช่น เราไปซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อ 107 บาท ถ้าสมมติสังเกตสลิปดีๆ จะพบว่าใน 107 บาทนั้น มีค่าสินค้าจริงๆ อยู่ 100 บาท และอีก 7 บาท จะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่เราจ่ายไปค่ะ
ที่นี้ความเกี่ยวข้องของบริษัทมันจะอยู่ตรงที่ ถ้าเราเป็นบริษัท ที่กฎหมายกำหนดว่าให้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) เราก็ต้องจดและเรียกเก็บเงิน 7% เพิ่มเข้าไปจากค่าสินค้าหรือบริการด้วย
แต่ 7% ที่เพิ่มเข้ามา ไม่ใช่เงินเรานะ เพราะว่าเป็นภาษีที่สรรพากรฝากเราเรียกเก็บและเรามีหน้าที่ต้องนำส่งสรรพากรทุกเดือน ด้วยแบบ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปกรณียื่นแบบกระดาษ (ยื่นแบบออนไลน์บวกไปอีก 8 วัน)
จดบริษัท ต้องจดVAT ไหม? แล้วบุคคล ต้องจดหรือเปล่า ?
การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กฎหมายไม่ได้สนใจว่าเราเป็นบริษัทหรือบุคคลธรรม แต่สิ่งที่เค้าสนใจคือ รายได้ คือ มีรายได้ประเภทอะไร และจำนวนเท่าไร
1.ประเภทรายได้
ถ้าไม่ใช่รายได้ที่ได้รับยกเว้น ก็ต้องจด (ถ้าจำนวนรายได้ถึง 1.8 ล้าน) ตัวอย่างรายได้ที่ได้รับยกเว้นเช่น ขายผลิตผลทางการเกษตร ขายสัตว์ อาหารสัตว์ ทำห้องสมุด เป็นต้น
2.จำนวนรายได้
ถ้ารวมๆ รายได้ต่อปีทั้งหมดของเราไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ก็ไม่จำเป็นต้องจดค่ะ
แต่ถ้าธุรกิจเรา สำรวจดูแล้วรายได้ก็ไม่ได้รับยกเว้น และมีรายได้รวมเกิน 1.8 ล้านบาทด้วย อันนี้ต้องจด VAT แน่นอน โดยไม่มีข้ออ้างว่าเราเป็นแค่บุคคลธรรมดา เพราะกฎหมายไม่ได้สนใจว่าเราเป็นใคร เค้าสนใจว่ารายได้อะไร และจำนวนเท่าไร
ควรจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทันทีไหม? ก่อนจดต้องดูอะไรบ้าง ?
อย่างที่บอกว่าเงื่อนไขของการจด VAT คือ 1) รายได้ไม่ได้รับยกเว้น 2) รายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปี ฉะนั้นถ้าเข้าเกณฑ์นี้ต้องจด VAT ทันที
แต่ๆ ถ้าเรายังไม่เข้าเกณฑ์การจด VAT เพราะเพิ่งเปิดธุรกิจก็ไม่ได้มีใครบังคับว่าต้องจด VAT ค่ะ ยกเว้นเสียแต่ว่าเราอยากใช้สิทธิเครดิตภาษีซื้อและคิดว่ายังไงรายได้ต่อปีต้องเกิน 1.8 ล้านแน่นอน จด Vat ไว้ก่อนเลยก็ได้
สิทธิเครดิตภาษีซื้อคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเราเป็นธุรกิจซื้อวัสดุก่อสร้างมาขาย ตอนที่เราซื้อสินค้าจาก Supplier มา 100 บาท มี Vat ที่โดนเรียกเก็บ 7% = 7 บาท อันนี้เรียกว่า VAT ซื้อ แล้วจากนั้นเราไปขายต่อให้ลูกค้า 300 บาท มี VAT ขายอีก 7% = 21 บาท อันนี้เรียกว่า VAT ขาย ถ้าเราอยากใช้สิทธิ์เอา VAT ซื้อมาหักกลบกับ VAT ขายส่งภาษีให้สรรพากร 21-7 บาท = 14 บาท ก็สามารถจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ ได้ค่ะ
และมีอีกประเด็นนึงคือว่า ถ้าลูกค้าเราเค้าอยากค้าขายกับคนที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เท่านั้น ก็จำเป็นต้องจดไว้แต่เนิ่นๆ นั่นเอง
จด VAT แล้วต้องทำอะไรบ้าง
หลังจากจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว เรามีหน้าที่คร่าวๆ ตามนี้
- จัดทำใบกำกับภาษี ทุกครั้งที่ขายหรือให้บริการ
- จัดทำรายงานที่เกี่ยวข้อง รายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และ รายงานสินค้าคงเหลือและวัตถุดิบ
- ส่งภาษีทุกเดือน โดยใช้แบบ ภพ 30 คำนวณจาก ยอดภาษีขาย มาหักด้วยภาษีซื้อ
ส่วนใครที่อยากยื่นแบบ ภ.พ.30 เองเช็คที่นี่ได้เลย
ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต้องเจออะไรบ้าง ?
ถ้าถึงเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แล้วเราไม่จด สิ่งที่ต้องเจอน่ากลัวมากเลยค่ะ คือ
- รายได้ส่วนที่เกิน 1.8 ล้าน ต้องคำนวณ VAT 7% อันนี้เราต้องเสีย 7% ส่วนนี้เองเพราะจะไปเรียกเก็บกับลูกค้าก็ไม่ได้ เช่น รายได้ 2 ล้านไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนเกิน 200,000 บาทคำนวณ VAT 7% = 14,000 บาท
- ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของเงินภาษี = 14000 * 2 = 28000 บาท
- เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน สูงสุดไม่เกินจำนวนภาษี
ถ้าคิดตามนี้แบบเล่นๆ ก็อาจเสียทั้ง VAT ย้อนหลังและค่าปรับสูงสุดรวมๆ 4 เท่าเลยค่ะ
สรุปสั้นๆ
ทำไมต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เมื่อเปิดบริษัท คำตอบก็คือ เพราะว่ากฎหมายกำหนดไว้นั่นเอง ซึ่งต้องเช็คสองเรื่อง คือ
1. มีรายได้ประเภทไหน กฎหมายได้ยกเว้นหรือไม่
2. ถ้ากฎหมายไม่ยกเว้นมาดูต่อว่ามีรายได้เท่าไร ถ้าเกิน 1.8 ล้าน คือต้องจดแน่นอน
ซึ่งการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ก็จะทำให้เรามีหน้าที่เพิ่มขึ้น คือ ออกใบกำกับภาษี ทำรายงาน และยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นประจำทุกๆ เดือน
อย่าลืมนะคะว่าถ้าถึงเกณฑ์ต้องจด ให้รีบจด อย่ารีรอ เพราะค่าปรับแพง
อยากรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ลองไปดูคลิปนี้เลยค่ะ
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit