งบกําไรขาดทุน คืออะไร ทำความเข้าใจงบกำไรขาดทุน 101

งบกําไรขาดทุน คืออะไร ทำความเข้าใจงบกำไรขาดทุน 101

งบกำไรขาดทุนเป็นงบที่อยู่คู่กับธุรกิจมานานม แต่รู้มั้ยคะว่าหลายคนไม่เข้าใจว่างบนี้คืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วมีประโยชน์แบบไหนกับธุรกิจบ้าง ซึ่งบอกได้เลยว่าพลาดมากๆ สำหรับคนทำธุรกิจค่ะ

สำหรับใครที่ยังไม่เข้าใจว่างบกำไรขาดทุน คืออะไร วันนี้เราลองมาเรียนรู้แบบพื้นฐานแบบ 101 ไปพร้อมกัน แถมบอกใบ้อีกนิดว่าเรามีตัวอย่างงบกำไรขาดทุนมาเป็นน้ำจิ้มให้เพื่อนๆ เรียนรู้ด้วยนะ

งบกำไรขาดทุน คืออะไร?

งบกำไรขาดทุน (Profit and Loss Statement) คือ งบที่แสดงถึงผลการดำเนินงานของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยการเปรียบเทียบรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการที่แสดงถึงกิจการมีกำไรหรือขาดทุนในระยะเวลา 1 ปี หรือ 1 งวดบัญชีค่ะ

ถ้าอธิบายให้ง่ายขึ้นไปอีก เราจะบอกว่างบกำไรขาดทุนนี้ เป็นงบที่คอยบอกเราว่ากิจการมีผลประกอบการดีมั้ย จากกำไร หรือขาดทุน เสมือนการประกาศเกรดสอบผ่านหรือสอบตก เพื่อให้เจ้าของธุรกิจพิจารณาตัวเองค่ะ (อูย….แบบนี้ ว้าวุ่นเลย)

งบกำไรขาดทุน คืออะไร
งบกำไรขาดทุน คืออะไร

สูตรงบกำไรขาดทุนเป็นยังไง

อย่างที่บอกไปว่างบกำไรขาดทุนเป็นการเปรียบเทียบระหว่างรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการ ซึ่งมีสูตร (ไม่ซับซ้อนสักนิดเลย) ดังต่อไปนี้

รายได้ – ค่าใช้จ่าย =กำไร(ขาดทุน)

จากสูตรสามารถอธิบายได้ว่า

ถ้าหาก รายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย แสดงถึงกิจการมีกำไรในระยะเวลา 1 ปี หรือ 1 รอบบัญชี

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น

บริษัท ก. จำกัด มีรายได้เกิดขึ้นทั้งหมด 100 บาท และค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทั้งหมด 50 บาท

ดังนั้น บริษัท ก. จำกัด เกิดกำไรจากการดำเนินงาน 50 บาท

หรือ

ถ้าหาก รายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่าย แสดงถึงกิจการขาดทุนในระยะเวลา 1 ปี หรือ 1 รอบบัญชี

ตัวอย่างเช่น

บริษัท ก. จำกัด มีรายได้เกิดขึ้นทั้งหมด 100 บาท และค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทั้งหมด 150 บาท

ดังนั้น บริษัท ก. จำกัด เกิดขาดทุนจากการดำเนินงาน 50 บาท

ทำความเข้าใจว่างบกำไรขาดทุน คืออะไรไปแล้ว และจากสมการนี้ดูเหมือนจะเข้าใจไม่ยากอย่างที่คิด แต่ๆ ช้าก่อน ในชีวิตจริงถ้าเพื่อนๆ เกิดอยากหยิบงบกำไรขาดทุนขึ้นมาดู อาจจะงงก็ได้ เพราะเจ้างบนี้มีด้วยกันหลายรูปแบบนะ

งบกำไรขาดทุนมีกี่แบบ ?

ต้องอธิบายแบบนี้ก่อนว่า งบกำไรขาดทุนมีหลายรูปแบบค่ะ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน แต่ส่วนใหญ่แล้วที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ ก็คือว่า บริษัทมักจะใช้งบกำไรขาดทุนที่เป็นรูปแบบเดียวกันกับที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดไว้ ซึ่งในที่นี้จะขออธิบายรูปแบบสุดฮิต 2 ตัว ที่พบกันบ้อยบ่อย ได้แก่

1.งบกำไรขาดทุนแบบขั้นตอนเดียว (Single-step Profit and Loss Statement)

งบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียว เป็นงบกำไรขาดทุนที่แสดงรายได้ทั้งหมดของกิจการ หักด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกิจการ

ข้อดี คือ ง่ายในการจัดทำรายงาน นักบัญชีชอบนัก เพราะไม่ได้มีการแบ่งรายได้และค่าใช้จ่ายเป็นหมวดหมู่ค่ะ

งบกำไรขาดทุนแบบขั้นตอนเดียว
งบกำไรขาดทุนแบบขั้นตอนเดียว

2. งบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้นตอน (Multiple-step Profit and Loss Statement)

งบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้น เป็นงบกำไรขาดทุนที่แบ่งรายได้และค่าใช้จ่ายออกเป็นหมวดหมู่

ตัวอย่างเช่น รายได้จากการขาย รายได้จากการให้บริการ ส่วนค่าใช้จ่ายก็แบ่งเป็น ต้นทุนขาย ต้นทุนการให้บริการ และค่าใช้จ่ายประเภทอื่นๆ

งบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้นตอน
งบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้นตอน

ข้อดี คือ คนอ่านงบนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เลย เช่น รายได้จากการขายกับต้นทุนขายมาเทียบกัน เพื่อแสดงออกมาเป็นกำไรขั้นต้น ทำให้รู้เลยในพริบตาว่า กิจการมีกำไร(ขาดทุน) มั้ยจากกิจกรรมหลักของธุรกิจ

ส่วนประกอบของงบกำไรขาดทุนมีอะไรบ้าง

ดูตัวอย่างงบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียวและหลายขั้นไปเรียบร้อยแล้ว ถัดมา เรามาดูองค์ประกอบในงบกำไรขาดทุนกันบ้างดีกว่า ว่ามีคำศัพท์อะไร น่าสนใจบ้าง

  • รายได้จากการขายหรือการให้บริการ (Revenues from sales or from services) คือ รายได้ที่เกิดจากการขายสินค้าหรือการให้บริการหลักของกิจการ
  • ต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ (Costs of sales or cost of services) คือ ต้นทุนที่เกิดจากการขายสินค้าหรือการให้บริการหลักของกิจการ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทำให้สินค้านั้นอยู่ในสภาพพร้อมขาย
  • กำไร(ขาดทุน)ขั้นต้น (Gross profit) มาจากรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการ หักด้วย ต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ
  • รายได้อื่น (Other incomes) คือ รายได้ที่ไม่ได้มาจากรายได้หลักของกิจการ เช่น รายได้จากการขายทรัพย์สิน (ไม่ได้ขายบ่อย พังแล้วจึงขายทิ้ง)
  • ค่าใช้จ่ายในการขาย (Selling expense) คือ ค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราขายของออก เช่น ค่าโฆษณาสินค้า เงินเดือนของพนักงานขาย ค่านายหน้า เป็นต้นค่ะ
  • ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Administrative expense)  คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการบริหารกิจการ เป็นค่าใช้จ่ายหลังบ้านที่เหมือนจะไม่เกี่ยวกับกระบวนการขายหรือผลิต แต่จริงๆ แล้วสำคัญนะ เช่น ค่าเช่าสำนักงาน เงินเดือนพนักงานฝ่ายบริหาร เงินเดือนพนักงานบัญชี เป็นต้น
  • กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ (Profit (loss) before finance cost and income tax expenses) แสดงถึงรายได้ทั้งหมดหักด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ก่อนหักต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้
  • ต้นทุนทางการเงิน (Finance cost) คือ ค่าใช้จ่ายที่มาจากการจัดหาเงินทุนของกิจการ เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าทางการเงิน แต่ศัพท์บัญชีมักเรียกให้เข้าใจยากไปสักนิด
  • ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ (Income Tax expenses) คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องจ่ายประจำปี (ไม่อธิบายเยอะ คิดว่าน่าจะเข้าใจลึกซึ้งกันอยู่แล้ว
  • กำไรสุทธิ (Net income) คือ กำไรสุดท้ายจากการทำธุรกิจที่เกิดจากรายได้ทั้งหมด หักด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ทำไมทุกคนควรอ่านงบกำไรขาดทุนเป็น?

เหตุผลง่ายๆ เลยอยากทำธุรกิจเก่ง ก็ต้องอ่านงบกำไรขาดทุนให้เป็นค่ะ เพราะงบกำไรขาดทุน คือ งบที่บอกได้ว่าเรามีผลประกอบดี หรือ แย่ และเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่จากอดีต

และหลังจากเราวิเคราะห์เกรดตัวเองได้แล้ว เราจะสามารถไขความลับของฟ้า (ฮ่าๆ) จากนั้นเอาไปปรับปรุงธุรกิจตัวเองได้ดียิ่งขึ้นนั่นไงล่ะ

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยใช่ไหม ว่าทำไมคนทำธุรกิจเก่งๆ เค้าอ่านงบกำไรขาดทุนเป็น วิเคราะห์ผลประกอบการธุรกิจตัวเองได้ และทำให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด

ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ

Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y

ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่

Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อก Zero to Profit ที่อยากให้เรื่องบัญชีเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ