สรุปไอเดียเปิดธุรกิจใหม่ ธุรกิจไหนทำแล้วรุุ่งสุดๆ

อยากเปิดธุรกิจใหม่ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แพชชั่นก็ไม่มี ไอเดียก็ไม่ค่อยบันเจิด

ไม่ต้องกังวลไป ถ้าอยากทำธุรกิจแล้วไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี วันนี้ Zero to Profit จะพาทุกคนมาดูข้อมูลของธุรกิจในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จกันว่าพวกเค้าทำอะไรกันบ้าง เผื่อว่าจะเป็นแนวทางต่อยอดธุรกิจของเพื่อนๆในอนาคต

รูปแบบธุรกิจที่ฮิต

คำถามแรกๆที่ถามตัวเองขึ้นมาหลังตัดสินใจว่าจะเริ่มธุรกิจจริงจังเสียที คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า “เราจะจดทะเบียนธุรกิจแบบไหนดี?”

ในปัจจุบันรูปแบบธุรกิจแบบนิติบุคคลที่เราเลือกได้จะมีอยู่ 3 อย่าง

• บริษัท
• ห้างหุ้นส่วน
• บริษัทมหาชน – ช้อยนี้ตัดไปได้เลยสำหรับคนเริ่มธุรกิจ เพราะว่าการเป็นบริษัทมหาชน หมายถึง การจดทะเบียนในตลอดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายก่อนจะเข้าตลาดได้

แล้วถ้ามาดูจากสถิติธุรกิจในประเทศไทย เราก็จะพอมีไกด์ลายน์ รู้ได้คร่าวๆ แล้วว่า คนส่วนใหญ่เค้าทำธุรกิจรูปแบบบริษัทจำกัดมากถึง 75% แต่ห้างหุ้นส่วนจะทำแค่ 24% เท่านั้น 

สาเหตุอาจจะเป็นเพราะรูปแบบบริษัทมักจะมีความน่าเชื่อถือกว่าเพราะว่ามีกฎระเบียบและขั้นตอนค่อนข้างเยอะกว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด เช่น ต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้น ต้องมีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบงบการเงิน และที่สำคัญทั้งบริษัทและห้างหุ้นส่วนเองอัตราภาษีก็ไม่แตกต่างกัน ฉะนั้น ธุรกิจส่วนใหญ่ในไทยจึงเลือกจดทะเบียนแบบบริษัทมากกว่า

พอเลือกรูปแบบได้แล้ว คำถามถัดมาคงหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า เอ…แล้วเราจะทำธุรกิจอะไรดี (สำหรับคนที่ยังไม่มีไอเดียธุรกิจใดๆ เลย แต่อยากหาธุรกิจทำสักอย่าง)

Zero to Profit จะชวนมาสำรวจไอเดียหมวดธุรกิจที่น่าสนใจจากอันดับรายได้ กำไร และสินทรัพย์กันบ้าง

รายได้จากธุรกิจไหนเยอะสุด

เคยสงสัยกันมั้ยว่าในประเทศไทยทำธุริกิจอะไรแล้ว “รายได้” เยอะสุด

จากข้อมูลงบการเงินที่ส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าของปี 63 อัพเดทถึง 31 ธันวาคม 2564 เราพบว่าธุรกิจ 5 ลำดับที่รายได้เยอะสุดในประเทศไทย มีตามนี้

• การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ (17 ล้านล้านบาท)
• การผลิต (16 ล้านล้านบาท)
• กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย (2 ล้านล้านบาท)
• การก่อสร้าง (1.37 ล้านล้านบาท)
• การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า (1.06 ล้านล้านบาท)

เห็นแบบนี้แล้วหลายคนน่าจะพอเดาทางถูกแล้วว่า ถ้าอยากมีรายได้จากการทำธุรกิจเยอะๆ ควรมุ่งหน้าไปทำธุรกิจหมวดไหนดี ซึ่งธุรกิจขายส่งและปลีกก็น่าสนใจไม่น้อย หรือว่าจะเปลี่ยนมาเป็นการผลิตก็รายได้ใกล้เคียงกันพอสมควร และสำหรับอันดับ 3-5 เม็ดเงินในประเทศอาจจะยังไม่เยอะเท่าสองอันดับแรก แต่ก็อาจจะเป็นธุรกิจที่หลายๆ คนกำลังมองอยู่เช่นกัน

แต่ๆๆ สุภาษิตไทยบอกว่าช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม เราอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เพียงแค่ดูอันดับรายได้ธุรกิจเท่านั้นนะ เพราะว่าการมีรายได้เยอะก็ไม่ได้การันตีว่าธุรกิจนี้จะรุ่ง เพราะบางทีอาจจะไม่มีกำไรก็ได้

กำไรจากธุรกิจไหนเยอะสุด

ลองมาดูอันดับกำไรจากธุรกิจในประเทศไทยกันบ้างว่าธุรกิจหมวดไหนกันที่ทำกำไรเยอะสุดในประเทศไทย จัดอันดับ 1-5 รับรองว่าเพื่อนๆ เห็นแล้วจะแปลกใจเลยล่ะ

• การผลิต (6 แสนล้านบาท)
• การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ (2 แสนล้านบาท)
• กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย (4 แสนล้านบาท)
• ไฟฟ้าก๊าซไอน้ำและระบบการปรับอากาศ (9 หมื่นล้านบาท)
• กิจกรรมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ (7 หมื่นล้านบาท)

จากอันดับกำไรข้างบน ทุกคนคงจะเก็ตเดียอะไรบางอย่างแล้วใช่ไหมว่า แม้จะมีรายได้เยอะก็ไม่ได้การันตีว่ากำไรจะเยอะด้วย อย่างเช่น ธุรกิจขายส่งและขายปลีกถึงแม้จะมีรายได้สูงถึง 17 ล้านล้านบาท แต่กลับกลายว่ามีกำไรเป็นอันดับสองเหลือแค่ 2 แสนล้านบาท ส่วนธุรกิจผลิตแซงหน้ามามีกำไรเป็นที่ 1 แทน และสำหรับธุรกิจการเงินแม้ว่าจะรายได้น้อยและเหมือนว่ากำไรก็ยังรั้งอันดับสามได้อยู่แบบนี้ถือว่าไม่เลวเลยนะ ส่วนอันดับ 4-5 เป็นของธุรกิจไฟฟ้า ก๊าซไอน้ำ และวิชาชีพวิทยาศาสตร์ที่รายได้ไม่ติดอันดับ แต่กำไรทะลุเป้า ซึ่งถือว่าเป็นอีกสองธุรกิจที่น่าสนใจเช่นกัน

เห็นอันดับกำไรแบบนี้ Zero to Profit ก็สงสัยไม่น้อยว่า เอ..แล้วธุรกิจก่อสร้างกับธุรกิจขนส่งเค้ายังมีกำไรดีอยู่ไหม เราลองไปดูตัวเลขกำไรแล้วพบว่า ธุรกิจก่อสร้างยังมีกำไรกันอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท แต่ที่น่าตกใจก็คือ ธุรกิจขนส่งมีขาดทุนอยู่ที่ 1 แสนล้านบาทจ้า นั่นก็แปลว่า ถ้าตอนนี้ใครอยากทำธุรกิจขนส่งจะต้องคิดดูให้ดีก่อน เพราะจากข้อมูลภาพรวมก็เห็นแล้วว่าขาดทุนยับเยินเลยเนอะ

ธุรกิจสินทรัพย์เยอะสุด

สินทรัพย์ธุรกิจคืออะไร?

สินทรัพย์ธุรกิจ หมายถึง ของที่เป็นของธุรกิจแล้วจะสร้างประโยชน์ให้ได้ในอนาคต เช่น เงินสด ลูกหนี้ สินค้า ที่ดิน โรงงาน และเครื่องจักร

ยิ่งธุรกิจมีสินทรัพย์เยอะก็มีโอกาสสร้างประโยชน์กลับมา (ในรูปแบบของรายได้และกำไร) ได้เยอะเช่นกัน แต่ในทางกลับกันการมีสินทรัพย์เยอะๆ อาจหมายถึงเงินลงทุนที่เยอะและบางครั้งถ้ามีเงินทุนไม่พออาจต้องไปร้องขอหยิบยืมคนอื่นมาลงทุน

ลองมาดู 5 อันดับธุรกิจที่มีสินทรัพย์สูงๆ กัน

• กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย (33 ล้านล้านบาท)
• การผลิต (15 ล้านล้านบาท)
• การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ (9 ล้านล้านบาท)
• กิจกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (6 ล้านล้านบาท)
• กิจกรรมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ (1.9 ล้านล้านบาท)

อันดับแรกที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมาเป็นธุรกิจทางการเงินและประกันภัย นึกภาพง่ายๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าน่าจะต้องนำเงินไปฝากพวกธนาคารหรือบริษัทประกันให้พวกเค้าดูแล และบริหารเงินให้งอกเงย เลยไม่น่าแปลกใจว่าทำไมธุรกิจพวกนี้มีสินทรัพย์สูงปรี๊ด และรองลองมาเป็นธุรกิจผลิตที่แน่นอนต้องลงทุนในโรงงานผลิตจำนวนมหาศาล นอกจากนี้มีธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งน่าจะต้องลงทุนในที่ดินเพื่อพัฒนาจึงมีมูลค่าสินทรัพย์สูงลิ่วขึ้นมาเป็นอันดับ 4

จากข้อมูลทั้ง 3 ส่วนประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นรายได้ กำไร และสินทรัพย์ น่าจะพอทำให้เพื่อนๆ นักธุรกิจมือใหม่เห็นภาพบ้างแล้วว่ามีธุรกิจไหนบ้างที่น่าสนใจในตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นข้อมูลภาพรวมของประเทศซึ่งความสำเร็จของธุรกิจเราอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนคนอื่นก็ได้ เพราะยังมีหลายๆ ปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

สุดท้ายก่อนจะจากกันไป Zero to Profit ขอปิดท้ายด้วยสถิติการจะเริ่มและเลิกธุรกิจในประเทศไทยแบบย้อนหลังกันไปยาวๆ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง

จากกราฟสีฟ้า เป็นจำนวนธุรกิจที่จดเริ่มใหม่ในไทย ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วง 60,000 – 80,000 ธุรกิจ ซึ่งพวกเค้าเหล่านั้นก็เป็นหนึ่งในคู่แข่งธุรกิจของเราเช่นกัน

แต่น่าเสียดายว่าจำนวนคนจดเลิกธุรกิจก็มีสูงถึง 20,000 รายในแต่ละปี

แปลง่ายๆ จากข้อมูลนี้ อาจจะบอกได้ว่าถ้ามีคนเปิดธุรกิจใหม่ 6-8 คน ก็มักจะมีคนที่ไปไม่รอดสัก 2 คน ฉะนั้น ถ้าคิดจะเปิดธุรกิจแล้ว ถ้าบริหารไม่ดีเราอาจจะกลายไปเป็นกลุ่ม 2 คน (ที่ไม่รอด) ก็เป็นได้

แต่ท้ายที่สุด แม้ธุรกิจเราจะไปไม่รอด มันก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตจะล้มเหลวไปซะหมดนะคะ Zero to Profit ขอเป็นกำลังใจให้คนทำธุรกิจมือใหม่หาสิ่งที่ใช่ให้เจอ และมีความสุขกับการทำธุรกิจทุกวันค่ะ

ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ

Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y

ติดตาม Zero to Profit ได้ที่

Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit