สัปดาห์นี้เรามาพบกับถาม-ตอบ ตอนใหม่ว่าด้วยเรื่องของการจ่ายเงิน ธุรกิจต้องจ่ายเงินยังไงจึงจะมีสภาพคล่อง ลองมาหาคำตอบกัน
Q: อธิบายเรื่องการจ่ายเงินธุรกิจให้ฟังหน่อยว่ามันมีแบบไหนบ้าง
A: การจ่ายการในธุรกิจแบ่งได้ 3 แบบง่ายๆ ค่ะ
1.จ่ายเงินค่าสินค้า
ตัวนี้จะมักจะผันแปรกับการขายหรือการผลิตนะ เช่น ถ้าเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป พอมียอดขายเยอะๆ เราก็ต้องลงทุนไปซื้อสินค้ามาไว้ขาย บางทีซื้อสด บางทีซื้อเชื่อ ถ้าสมมติซื้อแบบเชื่อ รายการนี้จะค้างเป็นหนี้ของกิจการที่เรียกว่า เจ้าหนี้การค้า ที่ต้องชำระตามกำหนด
2.จ่ายค่าใช้จ่าย Office
ตัวนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายในสำนักงานทั่วไป เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินเดือนพนักงาน ค่าเครื่องเขียนแบบพิมพ์ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายพวกนี้ส่วนใหญ่จะถูก fix ไว้เป็นรายเดือนอยู่แล้ว เป็นค่าใช้จ่ายคงที่
3.จ่ายค่าใช้จ่าย Office
ตัวนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายในสำนักงานทั่วไป เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินเดือนพนักงาน ค่าเครื่องเขียนแบบพิมพ์ เป็นต้น ค่าใช้จ่ายพวกนี้ส่วนใหญ่จะถูก fix ไว้เป็นรายเดือนอยู่แล้ว เป็นค่าใช้จ่ายคงที่
Q: แล้วเวลาจ่ายเงินซื้อของ พวกนี้เราจ่ายสดหรือจ่ายเชื่อดีกว่ากัน
A: การจ่ายเงินในธุรกิจ ถ้าอยากรักษากระแสเงินสดไว้นานๆ สมมติถ้าเลือกได้ก็ควรเลือกแบบจ่ายช้าๆ ในที่นี้ก็คือ จ่ายเชื่อจะดีกว่า เพราะว่าการได้เครดิตเงินเชื่อจาก supplier เสมือนแหล่งเงินทุนที่เราได้มาฟรีๆ โดยไม่มีดอกเบี้ย เช่น เครดิต 60 วัน เราได้สินค้ามาก่อน (ขายได้ก่อน) ใน 60 วันนี้เหมือนเราเอาทรัพย์สินมาทำมาหากินฟรีๆ โดยไม่มีดอกเบี้ยเลย
ฉะนั้น ถ้าเลือกได้ ใครๆ ก็น่าจะอยากซื้อของแบบเงินเชื่อ เพื่อเอาของมาใช้ประโยชน์และรักษากระแสเงินสดไว้ก่อน
Q: ซื้อของแบบเงินเชื่อ มีเครดิตเทอมไหม ขอเพิ่มได้ป่าว
A: ตอนที่แล้วเราพูดถึงการขายของแบบเงินเชื่อต้องมีเครดิตเทอม การซื้อของก็เช่นกัน แต่กลับด้าน เราต้องเจรจากับซัพพลายเออร์ว่าเค้าจะให้เครดิตเทอมเราเท่าไรดี หลักการก็คือ เราก็ไม่อยากจ่ายเงินเร็ว เลยต้องพยายามเจรจาว่าขอเครดิตเทอมนานๆ ได้ไหม
แล้วคำถามที่ว่าเราขอเครดิตเทอมเพิ่มได้มั้ย เรื่องนี้ต้องย้อนมาดูประวัติตัวเองก่อนเลยค่ะ ว่าเรามีประวัติยังไง ตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเราเคยซื้อของใครแล้วเบี้ยว จ่ายช้าประจำ ประวัติไม่ดี คงไม่อยากมีใครให้เครดิตเทอมเยอะๆ จริงไหม แต่ถ้าเราทำตัวดีมาตลอด โอกาสที่จะเจรจาขอเครดิตเทอมได้เพิ่มก็ไม่น่ายาก
Q: ถ้า Supplier ไม่ให้เครดิตเทอมนานๆ เราทำอะไรได้อีกบ้าง
A: อีกวิธีในการขยายเวลาชำระเงินสด อาจจะเป็นการสมัครบัตรเครดิตในนามธุรกิจ แล้วใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตใบนี้ เหมือนๆ กับบัตรเครดิตส่วนบุคคลที่เรามี สมมติใช้จ่ายวันนี้ รูดบัตรปุ๊บ ว่าจะตัดรอบบิล 1 เดือน จ่ายเงินสดอีก 1 เดือน ก็ช่วยขยายเวลาชำระหนี้ได้นานขึ้น
แต่ข้อจำกัดจะอยู่ที่ซัพพลายเออร์บางเจ้า เค้าไม่รองรับการจ่ายเงินแบบบัตรเครดิต อันนี้เราก็จะใช้วิธีนี้ไม่ได้ และอีกอย่างคือ การเป็นหนี้บัตรเครดิต มีต้นทุนดอกเบี้ยค่ะ ถ้าเราไม่จ่ายคืนตามเวลาที่กำหนดอาจโดนดอกเบี้ยสิบกว่าเปอร์เซนต์ สูงมากเลยถ้าวางแผนชำระเงินไม่ดี
Q: คำว่าวางแผนในที่นี้ต้องทำยังไงบ้าง
A: การวางแผนแบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ รู้หนี้ปัจจุบัน และทำ Budget งบประมาณจ่ายเงินในอนาคต
- รู้หนี้ปัจจุบัน คือ ต้องรู้ก่อนว่าเราเป็นหนี้ใครบ้าง จำนวนเท่าไร จะต้องจ่ายคืนเมื่อไร ถ้าจดไว้หรือบันทึกบัญชีไว้จะช่วยให้เราเข้าใจสถานะหนี้สินของตัวเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ทำ Budget งบประมาณจ่ายเงินในอนาคต การทำงบประมาณชื่อฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้ว concept ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
เริ่มแรกเรารู้จักหนี้ปัจจุบันของเราแล้วว่ามีอะไรบ้างใช้ไหมคะ ทีนี้การทำ Budget อาจจะแบ่งเป็นช่วงเวลาเช่นทำสำหรับทุกเดือนไปข้างหน้า เราก็แค่เอาตัวเลขที่เราแพลนไว้ว่าจะจ่ายค่าอะไรบ้าง จำนวนเท่าไร มาหยอดในช่องวันที่หรือเดือนตามที่กำหนด จากนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายประจำที่ต้องชำระทุกๆ เดือน ก็เอาไปใส่เพิ่มเติม พอรวมเลขออกมาแล้วปุ๊บ จะรู้เลยว่าในเดือนที่จะถึงข้างหน้าเราจะต้องวางแผนจ่ายชำระเงินเท่าไร และไปนับเงินในกระเป๋าเราว่ามีพอมั้ย ถ้ามีไม่พอ ต้องหาเพิ่ม หรือเจรจากับเจ้าหนี้ อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำการบ้านกันต่อ
Q: แปลว่าการทำ Budget ช่วยเราได้จริงมั้ย ถ้าธุรกิจไปได้ดี จำเป็นต้องมี Budget ป่าว
A: การทำ Budget หรืองบประมาณช่วยให้ธุรกิจวางแผนการจ่ายเงินได้ฉลาดขึ้น การจ่ายเงินแบบชาญฉลาด จำเป็นสำหรับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะมีเงินมาก หรือน้อย ถ้าเรารู้ว่าพรุ่งนี้ต้องจ่ายเงินให้ใคร จำนวนเท่าไร มันอาจจะดีกว่าที่เราไม่รู้อะไรเลย และที่สำคัญการมองภาพรวมเรื่องการจ่ายเงิน อาจช่วยให้เราเจอจุดบกพร่องหรือปัญหาก่อนที่มันจะเกิดในอนาคตได้เร็วขึ้น
สรุป
ทำธุรกิจแล้ว จ่ายเงินยังไงถึงจะรวยขึ้น อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่า เราจ่ายเงินออกไปแล้วมีประโยชน์ ถ้าไม่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจในข้อแรกนี้ก็ไม่มีทางรวย ส่วนอันดับถัดมา ต้องรู้ให้หมดว่ารายจ่ายในธุรกิจเรามีอะไรบ้างและต้องจ่ายเงินเมื่อไร โดยการจดบันทึกบัญชี และสุดท้ายคือ การวางแผน ทำ Budget จ่ายเงินไว้ล่วงหน้าอย่างสม่ำเสมอ จะได้เตรียมเงินไว้ถูก หรือชะลอการจ่ายชำระได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ธุรกิจที่รวยอาจไม่ใช่ธุรกิจที่ขายดีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นธุรกิจที่บริหารการจ่ายเงินได้อย่างชาญฉลาดด้วยนั่นเอง
ใครอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ตามไปทบทวนกันได้ในคลิปนี้เลย
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit