วิธีตั้งราคาขายแบบง่าย ให้ได้กำไรจริง

วิธีตั้งราคาขายแบบง่าย ให้ได้กำไรจริง

ในการทำธุรกิจขายของออนไลน์ เจ้าของธุรกิจมือใหม่หลายคนล้วนแต่ต้องการกำไรกลับมาทั้งนั้น จึงตั้งราคาขายให้สูงกว่าราคาทุนตามที่ใจคิด ซึ่งจริง ๆ แล้ว ต้นทุนสินค้าไม่ได้มีเฉพาะราคาที่ซื้อมาเท่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ด้วยน่ะสิคะ แบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าราคาขายของออนไลน์ที่ตั้งไว้สูงกว่าต้นทุนสินค้าทั้งหมดแล้วจริง ๆ บทความนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “วิธีตั้งราคาขายแบบง่าย ให้ได้กำไรจริง” มาฝากกันค่ะ

เริ่มต้นตั้งราคาขายทำยังไงดี

การตั้งราคาขายของออนไลน์เนี่ย ไม่ใช่เพียงแต่ตั้งราคาให้สูงกว่าราคาซื้ออย่างเดียวแล้วจบนะคะ เพราะสินค้าชิ้นหนึ่งมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ประกอบอยู่ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่งสินค้า ที่คุณจะต้องส่งของให้กับลูกค้า อยากให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักกับสินค้าของคุณ และนำไปสู่การปิดการขาย ก็ต้องมีการยิงแอด ซึ่งจะมีค่าโฆษณาที่ต้องเสีย แถมยังต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับแรงงานที่มาทำงานให้คุณ รวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟที่คุณใช้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณต้องรู้ต้นทุนทั้งหมดก่อนค่ะ

ตั้งราคาขายทำยังไงดี
ตั้งราคาขายทำยังไงดี

เมื่อรู้ต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว อันดับต่อมา เราก็จะนำราคาต้นทุนเหล่านี้มาคำนวณเพื่อตั้งราคาขายกันค่ะ โดยสามารถคำนวณราคาได้ 2 วิธี เมื่อคำนวณด้วยวิธีที่แตกต่าง ก็จะได้ราคาขายที่ต่างกันค่ะ

  1. Mark-up Price เป็นเงินที่เผื่อไว้ในราคาสินค้าแต่ละชิ้น โดยบวกเพิ่มเข้าไปกับต้นทุนสินค้า
  2. Margin Price เป็นเงินที่เหลือจากยอดขายที่หักลบด้วยค่าต้นทุนสินค้า โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์

เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ราคาขายสินค้าที่สูงกว่าราคาทุน แถมยังครอบคลุมต้นทุนต่าง ๆ ทุกอย่าง จนสามารถคืนทุนให้กับธุรกิจได้ในที่สุดค่ะ แต่เอ๊ะ…เจ้าของธุรกิจมือใหม่อาจจะยังไม่เห็นภาพว่าจะต้องคำนวณราคาขายอย่างไร ในหัวข้อถัดไปจะยกตัวอย่างให้ทุกคนดูกันค่ะ

ตัวอย่างการตั้งราคาขายของออนไลน์ในแพลตฟอร์ม

วิธีตั้งราคาขาย
วิธีตั้งราคาขาย

โจทย์มีอยู่ว่า สินค้าต้นทุน 120 บาท อยากได้กำไร 25% จะตั้งราคาขายเท่าไหร่ คุณสามารถนำ 2 วิธีตั้งราคาขายนี้มาคำนวณได้เลย เรามาดูที่วิธีคิดแบบ Mark-up กันก่อนนะคะ

Mark-up Price

ราคาขาย = ต้นทุนทั้งหมดต่อชิ้น + (% กำไรที่ต้องการ x ต้นทุน)

  = 120 + (25% x 120)

  = 120 + (30)

  = 150 บาท

จะเห็นได้ว่า ตัวเลขในวงเล็บ (25% x 120) เป็นจำนวนกำไร (บาท) ที่ได้ แล้วนำมาบวกรวมกับต้นทุนสินค้าต่อชิ้น นั่นก็คือ 120 บาท ก็จะได้ราคาขายของคุณ คือ 150 บาทนั่นเองค่ะ ส่วนวิธีตั้งราคาขายของออนไลน์แบบ Margin Price มีวิธีคำนวณ คือ

Margin Price

ราคาขาย = 100 x ต้นทุนต่อชิ้น / (100 – กำไรที่ต้องการ)

   = 100 x 120 / (100 – 25)

   = 100 x 1.6

   = 160 บาท

ส่วนวิธีนี้สามารถแจกแจงได้ว่า เอาต้นทุนสินค้า 120 บาท มาตั้งเป็นเศษ แล้วหารด้วย 100 หักลบด้วย 25 ซึ่งเป็นกำไรที่ธุรกิจต้องการ จะได้ตัวเลข 1.6 ออกมาก่อนจะคูณด้วย 100 ก็จะได้ราคาขายสินค้าแบบ Margin Price ออกมา นั่นก็คือ 160 บาทค่ะ

ตัวอย่างการตั้งราคาขายของออนไลน์
ตัวอย่างการตั้งราคาขายของออนไลน์

ถ้าสังเกตดูดี ๆ ระหว่างการคำนวณ 2 วิธีนี้ จะพบว่า วิธีคิดแบบ Margin Price จะได้ราคาขายที่กำไรมีมูลค่าสูงกว่าค่ะ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจมือใหม่ทุกคนที่ยังไม่รู้ว่าจะตั้งราคาขายสินค้ายังไงดี สามารถเอาวิธีคิดแบบนี้ไปใช้ได้นะคะ แต่ทั้งนี้มีบางแง่มุมที่จะต้องระวังเป็นพิเศษ โดยจุดที่ต้องระวังมีดังนี้ค่ะ 

ข้อควรระวังในการตั้งราคาขายมีอะไรบ้าง

ก่อนที่จะตั้งราคาขายของออนไลน์ มีข้อควรระวังที่เจ้าของธุรกิจต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้การคำนวณราคาขายเป็นไปอย่างรอบคอบที่สุด และส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณที่สุด โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ

  1. ต้นทุนสินค้า คือ ค่าใช้จ่ายที่ติดตัวสินค้า ทำให้สินค้าอยู่ในสภาพที่พร้อมขาย เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงในการผลิต เป็นต้น
  2. ค่าใช้จ่ายในการขาย คือ ค่าใช้จ่ายที่ช่วยเสริมให้สินค้าขายดี ขายเร็ว เช่น ค่าโฆษณา ค่าคอมมิชชัน ค่ารีวิวสินค้า เป็นต้น
  3. ค่าใช้จ่ายในการบริหาร คือ ค่าใช้จ่ายที่ใช้บริหารจัดการร้านค้า หรือออฟฟิศ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสำนักงาน เป็นต้น
  4. ภาษี หมายถึง ภาษีที่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือการค้าขาย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 20% หรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 35%
ข้อควรระวังการตั้งราคาขาย
ข้อควรระวังการตั้งราคาขาย

ข้อควรระวังเหล่านี้ จะช่วยให้คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดได้ถูกต้อง ถ้าหากยิ่งเจ้าของธุรกิจอ่านงบกำไรขาดทุนเป็น สามารถช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถตั้งราคาที่เหมาะสม มีโอกาสได้กำไรมากขึ้น จะเป็นผลดีต่อรายได้ของธุรกิจในอนาคต และนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้นจนประสบความสำเร็จได้ค่ะ

สรุป

ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีตั้งราคาขายของแบบง่าย ๆ ให้ได้กำไรค่ะ ซึ่งเจ้าของธุรกิจมือใหม่ทุกคนจะต้องรู้ต้นทุน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนว่ามีค่าอะไรบ้าง จากนั้นก็มาวางแผนกันว่าจะเอากำไรกี่ % เพื่อที่จะนำไปคำนวณราคาขายสินค้า โดยจะใช้วิธี Mark-up Price หรือ Margin Price ในการคำนวณ แต่ทั้งนี้ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่จะขาบด้วย จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเอาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาคำนวณบวกรวมกับต้นทุนสินค้าที่ซื้อมาขาย จนได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด แถมยังได้กำไรแบบไม่เข้าเนื้ออีกด้วยนั่นเองค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้เป็นอย่างดีนะคะ

ตั้งราคาขายยังไง ให้ได้กำไรจริง สิ่งที่ต้องรู้มีอะไรบ้าง สำหรับคนที่อยากฟังนุชและพี่หนอมพูดคุยกันเรื่องนี้ ไปติดตามต่อกันได้ที่นี่เลยจ้า

เริ่มต้นจดทะเบียนบริษัท รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อ

Line: @zerotoprofit

ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ด้านบัญชีธุรกิจ ที่เชื่ออย่างสุดหัวใจว่า การทำบัญชีช่วยให้ธุรกิจมีกำไร ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง