การจ้างนักบัญชีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลักษณะงานมีความเฉพาะตัวแตกต่างจากสายงานอื่น และที่สำคัญนักบัญชีที่ดี ต้องทำให้เจ้าของกิจการ มองเห็นข้อมูลธุรกิจได้ทะลุปรุโปร่ง ถ้าหากเจอนักบัญชีที่ดี ข้อมูลถูกต้องทำให้การบริหารเป็นไปตามความเป็นจริงได้
ถ้าวันนี้คุณเริ่มเปิดกิจการ แล้วอยากหานักบัญชีสักคน พวกเค้าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ลองมาอ่านตรงนี้กันก่อน
1. คุณสมบัตินักบัญชี
เริ่มต้น มาดูคุณสมบัตินักบัญชีขั้นพื้นฐานก่อนเลย
ต้องจบบัญชีและขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชี
แม้ว่างานบัญชีเป็นงานที่เรียนรู้เองได้ ฝึกฝนได้ แต่ถ้าอยากได้นักบัญชีที่มีคุณสมบัติครบถ้วน อย่าลืมถามพวกเค้าว่า “ได้จบบัญชีมาหรือไม่”
เหตุผลก็เพราะ กฎหมายได้กำหนดไว้ว่า ต้องมีผู้ทำบัญชีสำหรับกิจการต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ ปวส.บัญชี หรือปริญญาตรี สาขาการบัญชี และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
ถ้าเสี่ยงจ้างงานคนที่ไม่มีวุฒิการศึกษา หรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนผู้ทำบัญชีไว้ แม้จะมีความรู้มากมายอย่างไร เราก็ต้องไปหานักบัญชีตัวจริง มาเซนต์ชื่อรับรองการทำบัญชีอยู่ดี
มีประสบการณ์ทำงานเพียงพอ
อ่านแล้ว อย่าเพิ่งตกใจไปว่า เพิ่งเปิดบริษัท มีงบประมาณสำหรับนักบัญชีก็ไม่เยอะจะไปหาคนมีประสบการณ์มาจากไหน?
ลำดับแรก อยากชวนทุกท่านประเมินสถานการณ์กิจการของเราก่อนว่า มีความซับซ้อนมากน้อยขนาดไหน ถ้าไม่ซับซ้อนมาก ได้นักบัญชีประสบการณ์ทำงานสักปีสองปี ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นธุรกิจเฉพาะ เช่น ธุรกิจให้กู้ยืมเงิน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หรือโรงงานผลิตสินค้า ถ้าจะจ้างนักบัญชีคนแรก แนะนำว่าควรจ้างงานคนที่มีประสบการณ์ทำงานในธุรกิจนี้มาก่อน เพราะพวกเค้าจะช่วยวางระบบการทำงานในอนาคตให้เราได้ และที่สำคัญจะช่วยลดความผิดพลาดในการทำงานได้มากขึ้น
จ้างนักบัญชีที่เวลาเพียงพอและตรงต่อเวลา
ในบางทีเราอาจจะไม่มีเงินพอสำหรับการหานักบัญชีมาเป็นพนักงานประจำ การใช้บริการนักบัญชีฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่กระทั่งสำนักงานบัญชี ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน
แต่ข้อเสียข้อหนึ่งสำหรับนักบัญชีฟรีแลนซ์และสำนักงานบัญชี คือ พวกเค้าไม่ได้มีเราเป็นลูกค้าเพียงคนเดียว เราอาจจะเป็นลูกค้า 1 ใน 30 ของลูกค้าที่ดูแลโดยนักบัญชีคนเดียว แค่คิดง่ายๆ ใน 1 เดือน เค้ามีเวลาทำงานให้เราแค่ 1 วันเท่านั้น ถ้าธุรกิจเรามีเอกสารเยอะ มีความซับซ้อนมาก และต้องการคนดูแลใกล้ชิด เวลาจากนักบัญชี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ดังนั้น ก่อนจะจ้างงานนักบัญชี ถามพวกเค้าให้ดีๆ ว่ามีลูกค้าเยอะมั้ย และมีเวลาดูแลเราได้จริงๆ หรือไม่
2. ความรู้ภาษีเป๊ะ
รู้บัญชีแล้ว ต้องรู้ภาษีด้วย
ส่วนใหญ่แล้วเจ้าของกิจการก็คาดหวังให้นักบัญชีดูแลเรื่องภาษีให้ได้นั่นแหละ แต่ต้องทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนว่า ไม่ใช่นักบัญชีทุกคนจะทำภาษีได้ เพราะหลักการทางบัญชีจะมีต้นกำเนิดและที่มาที่ไปแตกต่างกันกับทางภาษีอย่างสิ้นเชิง
การทำบัญชีเรามุ่งบันทึกรายการค้าให้แสดงออกมาในรูปแบบของงบการเงินอย่างถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี แต่ภาษีนั้น ต้องทำตามกฎหมายภาษีที่กำหนด เพื่อจัดเก็บเงินเข้ารัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้จะใช้ข้อมูลทางบัญชีเป็นข้อมูลตั้งต้นในการยื่นภาษี แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงให้ถูกต้องตามหลักภาษีก่อนเสมอ
ถ้าวันนี้กิจการยังเพิ่งเริ่ม ไม่มีเงินพอที่จะจ้างที่ปรึกษาภาษีราคาแพง ลองมองหานักบัญชีที่มีทักษะภาษีด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับกิจการ
มีประสบการณ์ เคยยื่นภาษีมาก่อน
ถึงจะมีความรู้มากมาย แต่ก็ไม่เท่ามีประสบการณ์ทำงานจริง หลักการทางบัญชีแตกต่างกันกับทางภาษีอย่างสิ้นเชิง การยื่นภาษีก็เหมือนการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีที่กำหนด จะต้องใช้ประสบการณ์การฝึกฝน ฝึกคำนวณ ยิ่งนักบัญชีที่เคยเจอเคสภาษีมาหลากหลาย ยิ่งมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาที่ดี แถมยังสามารถแนะนำแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องได้ดีอีกด้วย
มีความตรงต่อเวลา
สำหรับงานภาษี อุปสรรคตัวใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือ เวลา เนื่องจากภาษีแต่ละชนิดมีเดดไลน์ที่ไม่เหมือนกัน นักบัญชีจึงต้องแม่นเรื่องเดดไลน์ เพื่อใช้ในการบริหารงาน จัดสรรเวลาเพื่อยื่นภาษีแต่ละชนิดให้ถูกต้อง
เจ้าอุปสรรคตัวใหญ่นี้ ถ้าหากมีการจัดการที่ดี อุปสรรคนี้จะถูกกำจัดไปได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าบริหารจัดการเวลาไม่ได้แน่นอนว่า อุปสรรคตัวนี้ ส่งผลร้ายแน่นอน คือ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ที่ต้องจ่ายนอกเหนือจากค่าภาษีนั่นเอง
3. ความเป็นมืออาชีพ
ใช้เทคโนโลยีเป็น ลดงานไม่จำเป็นได้
สมัยก่อนที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนามากอย่างทุกวันนี้ การทำบัญชีส่วนใหญ่ก็จะเป็นเขียนมือ หรือลงในไฟล์ Microsoft Excel ซึ่งแน่นอนงานบัญชีเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด และเวลากับมัน ถ้าหากเรามีนักบัญชีที่สามารถใช้เทคโนโลยีเก่ง เพื่อลดงาน และมาเน้นเชิงวิเคราะห์ หรือให้คำปรึกษา แบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารมากกว่า ลดงานที่ไม่จำเป็นเพื่อไปทำสิ่งที่จำเป็นมากกว่าก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
ซึ่งนักบัญชีก็จะมีการเลือกสรรโปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจ ก็ลองพิจารณาจากการเลือกโปรแกรมการทำงานของนักบัญชีดูว่า นักบัญชีคนนี้ ไฮเทค หรือว่า โลวเทคกันแน่
คิดบวก กล้าเผชิญทุกปัญหา
บางครั้งการทำบัญชี ยื่นภาษีก็มีเรื่องเครียดๆ เช่น ได้รับหนังสือเชิญพบจากกรมสรรพากร คำนวณภาษีขาดเกิน เรื่องเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นได้กับกิจการของทุกเมื่อ แต่จะต้องหานักบัญชีที่คิดบวก พร้อมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ไม่ใช่เมื่อสรรพากรเรียกแล้ว ลาออกทันที นั่นทำให้บ่งชี้ว่า สิ่งที่นักบัญชีทำบัญชีไว้ อาจมีข้อผิดพลาดจริงและอาจกลัวโดนตำหนิ หรือต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม
รักษาความลับ
จริงๆข้อนี้ นักบัญชีถูกบังคับใช้อยู่แล้วด้วยกฎหมาย ทำให้เราวางใจได้ระดับนึง เพราะถูกปลูกฝังการรักษาความลับของลูกค้าอยู่แล้ว แต่มีอีกข้อที่นักบัญชีที่ดีควรรู้ คือเรื่อง กฎหมาย PDPA ยิ่งนักบัญชีคนนั้นที่เราเลือกจะมาเป็นพนักงานของเราด้วย ยิ่งต้องเน้นย้ำเรื่องนี้ เพราะข้อมูลส่วนบุคลล เช่น พนักงานภายในคนอื่นๆในบริษัท ก่อนที่จะนำข้อมูลไปเปิดเผยกับบุคคลภายนอกเช่น ผู้สอบบัญชี หรือธนาคาร อาจจะเช็ค กฎหมาย PDPA ส่วนบุคคลเป็นพิเศษ ว่าต้องทำเอกสารการยินยอมให้ใช้ข้อมูลแบบไหนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่งั้น บริษัทเราอาจโดนฟ้องได้นะ
การจ้างนักบัญชี ไม่ใช่แค่ได้งบการเงินมาเท่านั้น ระหว่างทางมีข้อมูลมากมายที่นักบัญชีมืออาชีพ สามารถให้ผู้ประกอบการเอามาเป็นแนวทางในการบริหารงานได้จริง ดังนั้น การเลือกนักบัญชีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
สุดท้ายแล้ว การจ้างงานนักบัญชีนอกจากจะเลือกคนที่โดนใจ ราคาที่เหมาะสม อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ คุณสมบัติทางบัญชี ภาษีและคุณสมบัติอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปต่ออย่างราบรื่น
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือhttps://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit