3 ช่องทางสร้างเงินเข้าให้ธุรกิจ

3 ช่องทางสร้างเงินเข้าให้ธุรกิจ

หลายคนคงเคยได้ยินว่า ถ้าอยากรวย ยิ่งมีเงินสดมาจากหลายทางยิ่งดี

แต่การที่จะสร้างเงินสดได้มากมายนั้น รู้ไหมว่ามันมีที่มาจาก 3 ช่องทางหลัก

3 ช่องทางที่ว่าเป็นกิจกรรมทางการเงิน ที่เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน ถ้าเราเข้าใจความลับเรื่องนี้แล้ว อาจจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสร้างกระแสเงินได้แบบไม่ขาดมือ

ทุกคนคงสงสัยแล้วใช่มั้ยว่า 3 ช่องทางสร้างเงินเข้าให้ธุรกิจมีอะไรบ้าง เราลองมาหาคำตอบกัน

การจัดหาเงิน

1.กิจกรรมจัดหาเงิน

กิจกรรมแรกเป็นการจัดหาเงินทุนเพื่อมาเริ่มต้นทำธุรกิจและสร้างกระแสเงินสดเข้าในที่สุด การจัดหาเงินมักมาจาก 2 ช่องทางคือ

  • การกู้ยืม โดยเราอาจกู้ยืมจากธนาคารด้วยเงินจำนวนนึง จากนั้นข้อแลกเปลี่ยนคือ ต้องจ่ายคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามเวลาที่ตกลงกัน
  • การออกหุ้น คือ การแบ่งส่วนของเจ้าของให้กับนักลงทุนมาถือหุ้นในกิจการ ตัวกิจการเองจะได้เงินทุนก้อนโตมาประกอบธุรกิจ สุดท้ายทำธุรกิจแล้วมีกำไรเท่าไรก็จ่ายคืนให้กับนักลงทุนเป็นเงินปันผลออกไป

กิจกรรมจัดหาเงินนี้ต้องมีในตอนเริ่มธุรกิจ เพื่อที่จะนำเงินมาก่อร่างสร้างร้าน ให้ธุรกิจงอกเงยและผลิดอกออกผลออกมาเป็นกระแสเงินสดในอนาคต

เทคนิคของการจัดหาเงินที่ควรท่องไว้ คือ ต้องหาเงินทุนจากแหล่งที่ต้นทุนต่ำสุดและได้ผลประโยชน์สูงสุด เช่น ถ้าคิดจะกู้ยืมเงินก็ควรจะกู้จากแหล่งที่มีดอกเบี้ยต่ำสุด ถ้าเทียบกับระยะเวลากู้ยืมที่เท่ากัน สมมติเรามีต้นทุนการกู้ยืมอยู่ที่ 5% ต่อปี แต่เงินก้อนนี้เรารู้ว่าสามารถหารายได้และสร้างกระแสเงินสดได้มากกว่านั้น 100 เท่า มันก็คุ้มที่จะกู้ยืมเงินแน่นอน

ส่วนการออกหุ้นให้กับนักลงทุน สัดส่วนของเจ้าของที่เรามีจะลดลง แต่ต้องเทียบกับประโยชน์ที่เราได้รับจากผู้ถือหุ้นคนใหม่ เช่น หากเค้ามีความรู้ช่วยขยายธุรกิจได้ หรือมี Know-how บางอย่างที่เราไม่มี คุณสมบัตินี้ก็จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและหาเงินได้มากกว่าเก่า

การลงทุน

2.กิจกรรมการลงทุน

มีเงินทุนแล้ว เราต้องคิดต่อว่าจะเอาเงินนั้นไปลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง เพื่อสร้างกระแสเงินสดเข้ามาในกิจการ

กิจกรรมการลงทุนเป็นการจ่ายเงินก้อนโตออกไปก่อนเพื่อซื้อสินทรัพย์ระยะยาว ที่เราคิดมาดีแล้วว่าจะช่วยสร้างกระแสเงินสดได้ในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น

การตัดสินใจซื้อเครื่องจักรผลิตน้ำบรรจุขวด เครื่องจักรนี้มีมูลค่า 1 ล้านบาท หมายถึงเงินที่เจ้าของธุรกิจที่ลงไปก่อน เพื่อสร้างเงินสดเข้ามาในระยะยาว และในขณะเดียวกันถ้าเลิกใช้เครื่องจักรนี้อยากขายทิ้งก็จะได้เงินสดเข้ามาอีกก้อนหนึ่งด้วย

การลงทุนไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เสมอไป แต่อาจจะเป็นการลงทุนในหุ้นกู้หรือหุ้นทุนก็ได้เช่นกัน ถ้าลงทุนในหุ้นกู้ผลตอบแทนจะเรียกว่าดอกเบี้ย แต่ถ้าลงทุนในหุ้นทุนผลตอบแทนจะเป็นเงินปันผล และกำไรจากการขายหุ้น แต่ธุรกิจส่วนใหญ่อาจไม่นิยมลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ ถ้าไม่ได้มีเงินเหลือเฟือ เพราะพวกเค้าต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโต เป็นแหล่งของกระแสเงินสดให้ได้มากที่สุดก่อนนั่นเอง

การดำเนินงาน

3.กิจกรรมดำเนินงาน

กิจกรรมสุดท้ายที่สำคัญสุดๆ สำหรับการสร้างกระแสเงินสด เพราะนี่คือกิจกรรมหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยตรงและเงินส่วนใหญ่มักจะมาจากกิจกรรมนี้

กระแสเงินสดเข้าหลักๆ ของกิจกรรมดำเนินงานมาจาก

  • เงินสดรับจากการขาย
  • เงินสดรับจากการบริการ
  • เงินสดรับจากรายได้อื่นๆ
  • เงินสดรับจากการขายและให้บริการอาจแบ่งออกเป็นหลายๆ ช่องทาง เช่น การขายออนไลน์หรือออฟไลน์ การขายสินค้าหลากหลายชนิด หรือการให้บริการพ่วงไปด้วย ขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบธุรกิจเป็นอย่างไรและเราปรับตัวได้ดีขนาดไหน

    ส่วนกระแสเงินสดออกจากกิจกรรมดำเนินงาน เช่น

  • เงินจ่ายเพื่อซื้อสินค้า วัตถุดิบ
    • เงินจ่ายค่าบริการ
    • เงินจ่ายค่าเช่า
    • เงินจ่ายค่าโฆษณา
    • จ่ายเงินเดือนพนักงาน

    เงินสดออกพวกนี้ถ้าเราควบคุมได้ดี หมายถึง ทำให้เงินที่ออกไปสร้างรายรับอย่างคุ้มค่าที่สุด ธุรกิจก็จะสร้างผลกำไรตามมาได้ดีขึ้น

    โดยสรุปแล้ว การรู้จักทั้ง 3 กิจกรรมในธุรกิจ น่าจะทำให้เจ้าของธุรกิจทั้งหลายมองภาพการเดินทางของเงินสดได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะ…

    ทุกคราวที่จัดหาเงิน ต้องมั่นใจว่าเงินที่ได้มาจะสร้างธุรกิจได้งอกเงย

    ทุกครั้งที่ลงทุน ต้องรู้ว่านี่คือคานหนุน เร่งเงินเข้ามากกว่าที่ออกแรง

    และสุดท้าย ผลของความสำเร็จจะกลับมาหาคุณในรูปของรายได้ หรือกระแสเงินสดเข้าจากดำเนินงานอย่างแน่นอน

    ติดตาม Zero to Profit ได้ที่

    Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

    Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

    ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อก Zero to Profit ที่อยากให้เรื่องบัญชีเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ