ทำธุรกิจแบบบุคคลต่างกับบริษัทยังไง?

ทำธุรกิจแบบบุคคลต่างกับบริษัทยังไง?

ถ้าคุณกำลังเริ่มทำธุรกิจ และสงสัยว่าควรทำในรูปแบบไหนดี คุณควรอ่านโพสนี้

การทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา เป็นรูปแบบที่เจ้าของมือใหม่หลายๆ คนเลือก แต่หลายคนก็อยากเริ่มแบบจดทะเบียนบริษัทเลยดีกว่า

ธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดามันง่ายและดีจริงมั้ย มันแตกต่างกับบริษัทยังไง เราสรุปมาให้ฟังสั้นๆ กัน

1.จำนวนคนขั้นต่ำ

บุคคล = จำนวนคนขั้นต่ำ 1 คนก็เริ่มธุรกิจได้

บริษัท = ต้องมีจำนวนคนขั้นต่ำ 3 คน จึงจะเริ่มจดบริษัทได้

ประเด็นที่มักเจอบ่อยๆ คือ

  • มี 1 คนแต่อยากจดบริษัท เจ้าของธุรกิจหลายคนใช้วิธีให้บุคคลอื่นอีก 2 คนมาถือหุ้นลม 1% ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากผู้ถือหุ้นอีก 2 คนยินยอม

2.ผลประโยชน์

บุคคล = ถ้ามี 1 คนคงไม่มีปัญหาเพราะเจ้าของธุรกิจจะได้ผลกำไรจากธุรกิจทั้งหมดไปคนเดียวเลย แต่ถ้ามีหลายคนทำธุณกิจรูปแบบบุคคลร่วมกัน อาจจะแบ่งส่วนแบ่งยาก เพราะไม่มีกฎหมายกำหนดชัดเจน ดังนั้น รูปแบบนี้มักจะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์แบ่งกันไม่ลงตัวอยู่บ่อยๆ

บริษัท = ผลประโยชน์แบ่งตามเงินที่ลงทุนในหุ้น เช่น ลงทุนในหุ้น 25% ของหุ้นทั้งหมด ก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นเงินปันผลเท่ากับ 25% ของกำไรเมื่อประกาศจ่ายเงินปันผล ซึ่งค่อนข้างชัดเจนเพราะกฎหมายบังคับไว้เช่นนั้น

3.ความรับผิดในหนี้

บุคคล = ทำธุรกิจรูปแบบนี้ ถ้าไปก่อหนี้ในธุรกิจจำนวนเท่าใด เจ้าของธุรกิจก็ต้องรับผิดชอบในการชำระหนี้ทั้งจำนวน

บริษัท = คำว่าบริษัท ย่อมาจากคำเต็มว่า “บริษัทจำกัด” ซึ่งกรณีนี้คนที่ถือหุ้น จะรับผิดต่อหนี้ที่บริษัทก่อเพียงแค่จำนวนจำกัดเท่ากับหุ้นที่ลงทุนไว้เท่านั้น เช่น ลงทุนในหุ้น 1 ล้านบาท บริษัทมีหนี้ 12 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นคนนี้ก็จะรับผิดเท่าเงินที่ลงทุนไว้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น

4.ความน่าเชื่อถือ

บุคคล = ไม่น่าเชื่อถือเท่ากับบริษัท แต่ถ้าลูกค้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ก็ไม่น่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล

บริษัท = น่าเชื่อถือว่าบุคคลเพราะมีการจดทะเบียนจัดตั้ง มีตัวตนผู้ถือหุ้น และต้องทำงบการเงินส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

5.การทำบัญชี

บุคคล = ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแบบง่ายๆ ได้ ตามรูปแบบที่สรรพากรกำหนด

บริษัท = ต้องทำบัญชีตามที่ พรบ. การบัญชีกำหนดไว้ ซึ่งเจ้าของกิจการต้องจ้างนักบัญชีที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องเป็นผู้จัดทำและต้องมีผู้สอบบัญชีในการตรวจสอบด้วยนั่นเอง

โดยสรุปแล้ว ถ้าจะคิดทำธุรกิจ เราจะทำในรูปแบบไหนก็ไม่ผิด แต่สิ่งที่สำคัญเราควรรู้ว่าแต่ละรูปแบบมันมีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะรูปแบบที่ต่าง ย่อมมีความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่าง

รู้ไว้ก่อนเริ่ม จะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลังว่า รู้งี้ ทำแบบนี้ดีกว่า

ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ

Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y

ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่

Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อก Zero to Profit ที่อยากให้เรื่องบัญชีเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ