เป้าหมายของการทำธุรกิจคือมีกำไร แต่เป้าหมายของการจ่ายภาษีคือ จ่ายให้น้อยที่สุด
เมื่อเป้าหมายของการทำธุรกิจ กับการจ่ายภาษีมันสวนทางกัน บัญชี 2 เล่มก็ถือกำเนิดขึ้นโดยปริยาย
ในอดีตเรามักได้ยินคำว่าบัญชี 2 เล่มกันอยู่บ่อยๆ แล้วมันคืออะไร ทำไมมันถึงน่ากลัว เราลองมาศึกษากัน
บัญชี 2 เล่มคืออะไร?
บัญชี 2 เล่มคือ
- การทำบัญชีเพื่อใช้ภายในกิจการเล่มนึง ซึ่งจะเป็นการทำบัญชีตามข้อมูลค้าขายจริงที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา เพราะเป้าหมายหลัก คือ เพื่อดูผลประกอบการจริง และสร้างกำไรให้สูงๆ
- บัญชีอีกเล่มนึงก็คือ การทำบัญชีเพื่อนำส่งกรมสรรพากรและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีเป้าหมายให้กำไรต่ำๆ เพื่อเสียภาษีน้อยๆ
แล้วบัญชีเล่มไหนถูกที่สุด?
แน่นอนว่าบัญชีเล่มที่ถูกต้องที่สุด คือ บัญชีเล่มจริงที่เราบันทึกข้อมูลการค้าเกิดขึ้นจริง แสดงรายได้ ค่าใช้จ่ายและกำไรที่เกิดขึ้นในกิจการจริง เพราะตามกฎหมายแล้ว ไม่เคยมีคำว่า บัญชี 2 เล่มอยู่ในสารบบ ดังนั้น การที่เราจัดทำบัญชีเล่มที่ 2 ขึ้นมาเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง และนำส่งกรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไป ก็เสมือนนำส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งอาจมีปัญหาตามมาในอนาคต
บัญชี 2 เล่มน่ากลัวอย่างไร?
- เสี่ยงถูกประเมินภาษี ถ้าใครติดตามข่าวสารคงรู้ว่าในปัจจุบันกรมสรรพากรได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบและจัดเก็บภาษี อย่าง Big Data หรือ Data Analytic ทำให้งบการเงินที่เราส่งไปทุกๆ ปีจะถูกตรวจสอบเปรียบเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมและข้อมูลภายนอกต่างๆ เพื่อหาความเสี่ยงหลบเลี่ยงภาษีในหลายๆ เรื่อง
ถ้าเรายังทำบัญชี 2 เล่ม และส่งงบที่ผ่านการตกแต่งแล้วให้สรรพกร ไม่แน่ว่าในเร็ววันนี้อาจมีจดหมายเรียกพบ เพื่อให้ชี้แจงหรือประเมินภาษีเพิ่มเติม แล้วถ้าถึงจุดนั้น เจ้าของกิจการจะรับมือกับมันได้ไหม นี่เป็นเรื่องที่น่าคิด
- เสี่ยงขอกู้ไม่ผ่าน ผลพลอยได้จากการรณรงค์ให้ทำบัญชีเล่มเดียว ธนาคารทั้งหลายแหล่ ถูกบังคับว่าต่อไปนี้นะ ถ้ามีลูกค้ามาขอกู้ ให้ธนาคารประเมินการให้สินเชื่อจากงบการเงินที่ส่งกรมสรรพากร หากไม่ปฎิบัติตามธนาคารพาณิชย์จะมีโทษด้วย ดังนั้น จึงเป็นที่มาที่ไปว่า ถ้าใช้งบการเงินเล่ม 2 ที่ส่งสรรพากรแสดงรายได้ต่ำๆ กำไรต่ำๆ มาประเมินการให้สินเชื่อ กิจการก็ไม่น่าจะกู้ผ่านแน่นอน แทนที่จะขยายธุรกิจได้กลับเสียโอกาสตรงนี้ด้วย
- เสียเวลา การทำบัญชีเล่ม 2 ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังเสียเวลาอีกต่างหากเพราะการส่งงบด้วยบัญชี 2 ก็จำเป็นต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบด้วยเช่นกัน เสมือนทำงานซ้ำซ้อน 2 ครั้งในเรื่องเดียว นอกจากนี้เจ้าของกิจการอาจเกิดความสับสนว่าจริงๆ แล้วผลประกอบการเราเป็นอย่างไร เพราะทุกวันนี้บัญชี 1 ก็ทำได้ไม่ดีพอ ส่วนบัญชี 2 ก็จำเป็นต้องทำเพราะไม่อยากเสียภาษี
สรุปสุดท้าย เมื่อเข้าใจที่มาที่ไปของบัญชี 2 เล่ม ว่าคืออะไร และน่ากลัวอย่างไรแล้ว อย่าลืมคิดใหม่ทำใหม่ เริ่มทำบัญชีฉบับที่ถูกต้องให้ดีที่สุดก็พอ เพราะเผลอๆ การมัวแต่เสียเวลาตกแต่งบัญชีเพื่อหลบเลี่ยงภาษี อาจไม่ได้ประหยัดเงินได้จริง เท่ากับการหันมาสนใจธุรกิจ และตั้งใจทำให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อสร้างกำไรอย่างยั่งยืน
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit