เจ้าของธุรกิจที่หา “รายได้” เก่ง ในทุกวันนี้อาจดีไม่พอ นอกจากจะหารายได้เก่งแล้ว การวางแผนจ่ายเงินให้เป็นระบบก็เป็นเรื่องสำคัญ
แล้วจะจ่ายเงินเป็นระบบได้ยังไง ถ้าเรายังไม่เข้าใจวงจรรายจ่ายได้ดีพอ
วันนี้ Zero to Profit ชวนทุกคนมาทำความรู้จักวงจรค่าใช้จ่ายแบบครบจบในภาพเดียวไปพร้อมๆ กัน
.
วงจรรายจ่ายมี 4 ขั้นตอนหลักๆ และมีเอกสารที่เกี่ยวข้องตามนี้
1.คัดเลือก
แม่สอนไว้ว่าก่อนซื้อของต้องเทียบราคา เอกสารที่เรานิยมขอจากซัพพลายเออร์เพื่อเทียบราคา คือ “ใบเสนอราคา” เพื่อดูรายละเอียดเงื่อนไขสินค้าและราคาก่อนตัดสินใจ
2.ได้ของ
ของที่ได้มาต้องมาพร้อมกับเอกสารสำคัญ อย่าง “ใบส่งของ” เพื่อเป็นหลักฐานว่าซัพพลายเออร์ได้ส่ง และเราได้รับของแล้ว และ “ใบแจ้งหนี้” เพื่อระบุว่าเราเป็นหนี้ซัพพลายเออร์แล้วนะ ส่วนใหญ่แล้วในใบแจ้งหนี้มักระบุ “เครดิตเทอม” ว่าให้จ่ายภายในเมื่อไร
3.วางบิล
ช่วงวางบิลอาจกำหนดโดยเราเองว่าให้วางบิลทุกวันที่ 25 ของเดือน ซึ่งซัพพลายเออร์ก็จะรวบรวมลิสใบแจ้งหนี้ สรุปไว้ใน “ใบวางบิล” นี้เอง
4.จ่ายเงิน
ขั้นนี้เราจะจ่ายเงินสดออกไปตามเงื่อนไขเครดิตเทอมล่ะ และเอกสารที่จะได้รับจากซัพพลายเออร์ คือ “ใบเสร็จรับเงิน” เป็นเอกสารยืนยันว่าเราจ่ายเงินจริง ไม่ติงนัง ถ้าใครจ่ายเงินแล้ว ไม่ได้ใบเสร็จรับเงิน นักบัญชีตาเขียวใส่แน่นอน
หมายเหตุ ถ้าธุรกิจไหน เป็นธุรกิจเล็กๆ อาจยุบขั้นตอน “วางบิล” ออกไปได้ แต่นั่นหมายความว่า เราต้องคอยรวบรวมใบแจ้งหนี้ไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยตัวเองน้า
เข้าใจเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว ลองมาดูผลกระทบทางบัญชีกัน
ในทางบัญชีมีผลกระทบอยู่ 2 จุดเท่านั้น
- ได้ของ = ภาระเกิด (หนี้เพิ่ม) พร้อมกับค่าใช้จ่าย หรือสินทรัพย์
- จ่ายเงิน = เงินสดออก พร้อมกับ ภาระที่หายไป (หนี้ลด)
ถ้าสังเกตดีๆ สองช่วงนี้ถ้ายิ่งเราทำให้ห่างกันได้มากๆ (ตามเครดิตเทอม) เราก็ยิ่งมีเงินหมุนในกิจการได้นานขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเจรจาต่อรองขอเครดิตเทอมกับซัพพลายเออร์ด้วยนั่นเอง
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit
