สรุปเรื่องต้องรู้ก่อนเลิกธุรกิจ

สรุปเรื่องต้องรู้ก่อนเลิกธุรกิจ

“นี่เธอ…เราเลิกกันเถอะ” แค่ไม่รักก็บอกเลิกกันมันง่ายแบบนี้จริงๆ ไหม

สำหรับคู่รักหนุ่มสาวเลิกกันยากมั้ย Zero to Profit ไม่มั่นใจ แต่สำหรับคนทำธุรกิจแล้วจดทะเบียนเลิกธุรกิจ บางทีอาจยุ่งยากกว่าบอกเลิกสาวๆ เป็นสิบๆ เท่าเสียอีก

แล้วยิ่งถ้ามีอดีตที่คาราคาซัง ฝังใจกันมานาน ตอนเลิกบริษัทเนี่ย ขอบอกไว้เลยว่าต้องระวังตัวดีๆ เพราะบางทีอาจจะต้องเสียภาษีหรือค่าปรับต่างๆ แบบไม่ทันตั้งตัว

ทีนี้มีเรื่องอะไรบ้างที่เราต้องรู้ก่อนตัดสินใจจดทะเบียนเลิกบริษัท เราลองมาดูกันค่ะ

1.ผู้ถือหุ้นตกลงที่จะเลิกร่วมกันไหม

ตอนเริ่มก่อตั้งบริษัท กฎหมายบอกว่าต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 คน และเมื่อเลิกบริษัทเช่นกันเราจะเลิกคนเดียวไม่ได้ ต้องให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของหุ้นทั้งหมดตกลงปลงใจเลิกบริษัทด้วยกันนะ

ถ้าสมมติเราแบ่งสัดส่วนหุ้นไว้แล้ว พอจัดประชุมเพื่อเลิกบริษัท มีผลโหวตไม่ต่ำกว่า 75% ก็สามารถเลิกบริษัทได้สบายๆ แต่เมื่อไรก็ตามผลโหวตไม่ถึง ชีวิตก็มักจะมีเรื่องกลุ้มใจว่า เอ..แล้วเราจะเลิกยังไงล่ะ

เพราะการเลิกบริษัทโดยไม่บอกกล่าวผู้ถือหุ้นทุกคนล่วงหน้า อาจมีความผิด เผลอๆ อาจโดนฟ้องกลับ งานเข้าหนักกว่าเดิมอีกนะ

ที่สำคัญในขั้นตอนก่อนและหลังลงมติเพื่อเลิกบริษัทต้องมีการประกาศหนังสือประชุมให้เรียบร้อย ซึ่งแนะนำว่าควรศึกษาขั้นตอนและระยะเวลาให้ดีๆ เลยนะ

2.ยื่นงบครบทุกปีไหม

หลายคนคงมีคำถามในใจว่า การยื่นงบการเงินให้ครบทุกปีตั้งแต่เปิดบริษัทมามีความสำคัญอะไร ในเมื่อเราไม่ได้ดำเนินการอะไรในบริษัทมาตั้งแต่ต้นแล้ว

คำตอบคือ เพราะกฎหมายกำหนดให้เรานำส่งงบการเงินทุกๆปี แม้ไม่มีการทำธุรกิจก็ตาม ฉะนั้น ถ้าเราไม่ส่งงบการเงิน ไม่มีผู้ตรวจสอบตรวจรับรองงบปีก่อนหน้า สุดท้ายแล้วงบเลิกก็จะไม่มีคนรับรองในที่สุด

สุดท้ายแล้วก็เลยกลายเป็นคำตอบที่ว่า ถ้าในปีที่ผ่านๆ มายังไม่ได้ยื่นงบการเงิน ก่อนจดทะเบียนเลิก ต้องกลับไปแก้ไขอดีต ทำบัญชีย้อนหลังและยื่นงบการเงินให้ครบถ้วนแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยนะจ๊ะพี่จ๋า

3.ยื่นภาษีครบไหม

นอกจากงบการเงินแล้วยังมีเรื่องภาษีที่เป็นของคู่กัน แต่ทว่าธุรกิจแต่ละแบบก็จะมีภาษีที่แตกต่างกัน เราต้องศึกษาก่อนว่าเราเกี่ยวข้องกับภาษีอันไหน และเราได้ยื่นภาษีครบถ้วนหรือไม่

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าใครจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ต้องยื่นทุกเดือน
  2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ต้องยื่นในเดือนที่มีการจ่ายเงินและหัก ณ ที่จ่าย
  3. ภาษีเงินได้ ต้องยื่นประจำทุกครึ่งปีและสิ้นปี
  4. ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีมีเงินให้กู้ยืมแก่บุคคลภายนอกแล้วได้รับชำระดอกเบี้ย เราก็ต้องยื่นภาษีตัวนี้ด้วยเช่นกัน

ส่วนใหญ่แล้วภาษีตัวที่เจ้าของธุรกิจมักลืมยื่น กรณีที่เปิดบริษัทแล้วไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย คือ ข้อ 3 และ 4

4.เลขในงบเคลียร์หรือยัง

สิ่งที่เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการยื่นงบการเงินอีกเรื่องนึงคือว่าถ้ารู้ว่าจะเลิกบริษัทแน่นอน อย่าลืมใช้เวลาก่อนไปจดทะเบียนเลิก เคลียร์ตัวเลขค้างคาต่างๆ ในงบการเงินออกให้หมดเพราะเมื่อจดเลิกแล้ว เราจะกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีตบ่ได้แล้วเด้อ เช่น

  • ลูกหนี้ ต้องเรียกรับชำระให้ครบ
  • สินค้า/อุปกรณ์ ขายออกไปให้หมด เพราะถ้าขายไม่หมดสุดท้ายจดเลิกอาจถูกสรรพากรประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มได้
  • เจ้าหนี้ เป็นหนี้ใครอย่าลืมจ่ายชำระคืน และนำส่งภาษีให้ครบถ้วน
  • กำไรสะสม กำไรสะสมที่จ่ายเงินปันผลก่อนเลิก ผู้ถือหุ้นจะจ่ายภาษี ณ อัตรา 10% แต่ถ้ามีค้างอยู่ตอนเลิกผู้ถือหุ้นต้องเสียภาษีด้วยอัตราก้าวหน้านะจะบอกให้

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เจ้าของธุรกิจจะต้องรู้และปฏิบัติให้ถูกต้องตาม step เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายหรือภาษีที่ไม่ควรจะจ่าย

สุดท้ายถ้าเราทำทุกอย่างเต็มความสามารถจนถึงกระบวนการเลิกจริงๆ เราจะได้ไม่เสียใจกับประสบการณ์ที่ผ่านมา

และ Zero to Profit ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในอนาคตค่ะ

ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ

Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y

ติดตาม Zero to Profit ได้ที่

Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อก Zero to Profit ที่อยากให้เรื่องบัญชีเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ