อยากรู้ว่าคนนี้ดีหรือไม่ (ในเบื้องต้น) เราอาจฟันธงได้ง่ายๆ จากการ “ดูโหงวเฮ้ง”
ธุรกิจก็เช่นกันค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าเถ้าแก่บริหารดีไหม เป็นคนยังไง เราสามารถอ่านโหงวเฮ้งเถ้าแก่ได้ง่ายๆ จากงบการเงิน
ฮั่นแน่…ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยล่ะคะว่า งบการเงินบอกโหงวเฮ้งของเถ้าแก่ และธุรกิจของพวกเราได้จริงหรือ
อย่าเพิ่งเชื่อ Zero to Profit ก็ได้ แต่อยากให้ทุกคนลองมาพิสูจน์ด้วยการอ่านงบการเงินไปพร้อมๆ กันนะ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย
ดูโหงวเฮ้งจากงบการเงิน เป็นเถ้าแก่สายไหน เช็คได้ที่นี่
1. เถ้าแก่สายบุญ
เริ่มต้นอันดับแรก กับ “เถ้าแก่สายบุญ” ทำธุรกิจแบบขาดทุนขั้นต้น เสมือนหนึ่งทำเพื่อการกุศล ได้บุญไปเต็มๆ แต่กำไรไม่มีสักบาท
วิธีการเช็คง่ายๆ เถ้าแก่สายนี้มักขายของถูกกว่าราคาต้นทุนค่ะ เช่น ซื้อของมา 310,000 บาท แต่ขายเพียง 300,000 บาท ขาดทุนที่ว่าคือ ขาดทุนขั้นต้นจากการขาย ไม่รวมค่าใช้จ่ายจุกจิกอย่างอื่นเลยนะ สังเกตได้ง่ายๆ จากงบกำไรขาดทุนค่ะ
หลายคนอาจคิดว่านี่คือการตลาด แต่ในระยะยาว เรายิ่งขาย ยิ่งขาดทุน ยิ่งขายมาก ยิ่งขาดทุนมาก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
ถ้าใครรู้ตัวแบบนี้แล้ว และอิ่มบุญจนจุก ขอให้กลับไปทบทวนวิธีการตั้งราคาขาย และบริหารต้นทุนสินค้าให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะถลำลึกถอนตัวไม่ขึ้นนะคะ
2. เถ้าแก่สายเสมอ
สายเสมอ เมื่อไรเธอเก็บเงินลูกค้าได้เสียที เถ้าแก่สายนี้เป็นคนใจดีเกินเหตุ ขายเชื่อแบบรัวๆ แต่เก็บเงินไม่ได้สักที
ถ้าเจอแบบนี้ ขอให้สังเกตงบแสดงฐานะการเงิน ยอดลูกหนี้จะพุ่งสูงปรี๊ดถ้าเทียบกับสินทรัพย์อื่น
ที่สำคัญถ้าลองไปเทียบลูกหนี้กับยอดขาย แล้วพบว่า ยอดลูกหนี้เยอะเหลือเกิน แต่ยอดขายน้อยนิดนั้น แปลว่า เราเข้าขั้นวิกฤตแล้วค่ะ เนื่องจากของที่ขายได้ บ่ได้ผันมาเป็นเงินสดจริงๆ สักบาทเลย
นอกจากนี้ สูตรในการเช็คจำนวนวันลูกหนี้ง่ายๆ ให้ทำตามนี้
จำนวนวันที่เก็บเงินลูกหนี้ = ลูกหนี้/ยอดขาย x 365
ยิ่งจำนวนวันยิ่งมาก ยิ่งเก็บเงินได้ยาก ถ้าเจอแบบนี้ต้องรีบตามจิกลูกค้ารัวๆ เลยจ้า
3. เถ้าแก่สายตุน
เถ้าแก่บางคนชอบซื้อสินค้ามาตุน เพราะกลัวไม่มีของขาย แต่บางครั้งก็ลืมนึกไปว่า สินค้าที่ตุนไว้ อาจสร้างปัญหาในภายหลัง ถ้าขายสินค้าได้ไม่เร็วพอ เช่น
- เน่าเสีย = ค่าใช้จ่าย
- ขายยาก = เงินไม่เข้า
- เปลืองที่ = ค่าใช้จ่าย
- เสียค่าดูแล = ค่าใช้จ่าย
สังเกตง่ายๆ จากสัดส่วนสินค้าคงเหลือในงบแสดงฐานะการเงินที่สูงมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ
ฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้เงินจมในสต็อก ต้องหมั่นวิเคราะห์แผนการขายและผลิตอย่างสม่ำเสมอ เช่น จากประวัติที่ผ่านมาคาดว่าจะขายได้เท่าไร แล้วจึงสั่งซื้อ กักตุนสินค้าไว้แค่พอขาย อาจจะดีกว่า
4. เถ้าแก่สายสร้าง
สร้างทุกอย่างตามใจ แต่รายได้เข้ามาไหม ให้เป็นเรื่องของอนาคต
การสร้างในที่นี้หมายถึง การซื้อที่ดิน อาคาร เครื่องจักร อุปกรณ์เข้ามาใหม่ โดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าสินทรัพย์นั้นจะช่วยสร้างรายได้กลับมาให้กับธุรกิจหรือไม่
บางครั้งสิ่งที่สร้าง อาจไม่จำเป็น หรือมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า
สุดท้ายแล้ว ธุรกิจต้องรับภาระมีที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ในงบการเงินเยอะเกินไป และทุกๆ ปีก็จะมีค่าใช้จ่าย เรียก “ค่าเสื่อมราคา” ในงบกำไรขาดทุน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยนึงที่ทำให้ธุรกิจไม่ได้กำไรสักทีค่ะ
5. เถ้าแก่สายยืม
ยืมมาก่อน พ่อสอนไว้ ดอกเท่าไร อย่าไปกลัว!
ทุกครั้งที่ยืม = มีภาระดอกเบี้ย และเงินต้นที่ต้องจ่าย
แปลว่า ถ้าธุรกิจเรากู้ยืมเงินจากคนอื่นมากไป สุดท้ายอาจทำให้เราไปต่อไม่ได้เพราะ เงินหามาได้เท่าไร ไปจ่ายชำระดอกเบี้ยและเงินกู้ทั้งหมด
วิธีสังเกตว่า ธุรกิจพึ่งพิงเงินยืมจากคนอื่นมากเกินไปไหม ลองเช็คอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของได้ ถ้ามีมากกว่า 50% เมื่อไร แปลว่าธุรกิจยืมเยอะ มีหนี้เยอะ อาจไม่มั่นคงเท่าไรในระยะยาว
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีดูโหงวเฮ้งง่ายๆ จากงบการเงิน ที่บ่งบอกวิธีบริหารธุรกิจของเถ้าแก่ได้ในเบื้องต้น แต่ก็ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนโหงวเฮ้งไม่ได้ในอนาคตนะคะ เพราะ ถ้าเรายังทำศัลยกรรมหน้าเพื่อปรับโหงวเฮ้งได้ ทำไมจะศัลยกรรมงบ เพื่อปรับโหงวเฮ้งธุรกิจไม่ได้ล่ะ ถ้ารู้ปัญหาแล้ว หาทางแก้ไขแต่เนิ่นๆ เชื่อแน่ว่าอยากมีธุรกิจโหงวเฮ้งสตรองแค่ไหน ทุกคนสร้างเองได้จากการอ่านงบการเงินค่ะ
เคยสงสัยกันมั้ยว่าธุรกิจที่เราทำอยู่อนาคตจะ “รุ่ง” หรือจะ “ร่วง” เราจะเช็คจากอะไรได้บ้าง? ถ้าถามสายมู….คงแนะนำให้เราตรวจดวงชะตาราศี แต่ถ้าถามนักบัญชี คำแนะนำที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น “การอ่านงบการเงิน” ธุรกิจรุ่งแน่ถ้ามี 8 ข้อในงบการเงิน
เปลี่ยนงบการเงินจากแป๊กเป็นปัง ปรึกษาเราได้ที่นี่
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Website: https://zerotoprofit.co
Facebook: https://www.facebook.com/ZerotoprofitTH
