จริงๆ แล้วเรามีกำไร ถ้าไม่คิดค่าเสื่อมราคา
ประโยคคลาสสิคที่คนทำธุรกิจอาจเคยได้ยินบ่อยๆ
แล้วความจริงมันคืออะไร หลายคนก็คงสงสัยเช่นกัน
ก่อนที่จะไปเฉลยว่าคำพูดนี้ผิดหรือถูก Zero to Profit จะชวนทุกคนมาย้อนอดีตและคิดไปพร้อมๆ กัน
1.คุณคิดว่าจักรยานที่เราซื้อมา ตอนอายุ 15 ขวบ ราคา 50,000 บาท ในวันนี้ถ้าคุณอายุ 30 ปี คุณคิดว่าจะขายจักรยานได้เท่าไร?
ถ้าคุณตอบว่า มูลค่าตอนนี้น่าจะเหลือ 0 บาท หรือเป็นซากรถเก่าขายไม่ได้แล้ว นั่นแปลว่า คุณเข้าใจว่า สินทรัพย์ (จักรยาน) ของเรามันน่าจะเสื่อมมูลค่าไปตามกาลเวลา จริงมั้ย
ถ้าจริง เดี๋ยวเราไปคิดกันต่อ
2.จักรยานเจ้าปัญหานี้ตอนที่ซื้อมากะว่าจะเอามารับจ้างส่งอาหารแถวบ้าน
คุณคิดว่าเงิน 50,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายธุรกิจตั้งแต่วันแรกที่ซื้อมาเลยไหม?
คุณอาจลังเลที่จะตอบว่าใช่ เพราะ ถ้ารายได้วันแรกได้ 20 บาท – ต้นทุน 50,000 บาท = ขาดทุน -49,980 บาท มันดูไม่ Make Senses เอาซะเลย
แล้วถ้าแบ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายตลอด 5 ปีที่คิดว่าจักรยานยังใช้งานได้อยู่ล่ะ?
ลองกดเครื่องคิดเลขดู 50,000 บาท หารด้วย 5 ปี หารด้วย 365 วัน = 27.40 บาท/วัน
แล้วถ้าสมมติวันนี้มีรายได้ 20 บาท มีต้นทุนจักรยาน 27.40 บาท
แปลว่า เราจะขาดทุน = 20 – 27.40 = -7.40 บาท มันก็ดู Make Senses ดีแฮะ
อย่างงี้ ถ้าทำรายได้ได้วันละ 100 บาท เราก็จะมีกำไร = 100 – 27.40 = 72.60 บาท ก็ยิ่งดูเข้าท่าไปอีก
แบบนี้ทุกคนน่าจะพอเข้าใจไอเดียการคิดค่าเสื่อมราคาเข้าแล้ว ว่าค่าเสื่อมราคา ก็คือ การคิดค่าใช้จ่าย (ต้นทุนการทำธุรกิจ) ให้มัน Smooth ตลอดอายุของจักรยาน จะได้ไม่มาบวมเป็นค่าใช้จ่ายในวันแรกให้หมดกำลังใจ
3.ทีนี้ถ้าเราจะลองชวนทุกคนคิดว่า ในธุรกิจส่งอาหารในหมู่บ้านของเราเนี่ย จะไม่คิดค่าเสื่อมของจักรยานเป็นค่าใช้จ่ายธุรกิจได้ไหม?
ทุกคนก็คงบอกว่า “ไม่ได้” เพราะจะทำงานส่งของได้ก็ต้องมีจักรยาน
ถ้าไม่มีจักรยานก็ทำธุรกิจไม่ได้
เช่นเดียวกัน ถ้าไม่คิดค่าเสื่อมเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจ เราก็เหมือนจะมีกำไรสูงเกินความเป็นจริงน่ะสิ
แล้วถ้าเปลี่ยนจากเรื่องจักรยานในวัยเด็ก มาเป็นชีวิตจริงในธุรกิจวันนี้ ทุกคนคงเข้าใจได้ทันทีว่า
- สินทรัพย์ระยะยาว (อาคาร เครื่องจักร อุปกรณ์) ที่เราซื้อมา เวลาผ่านไปมันก็เสื่อมมูลค่าลง
- ค่าเสื่อมช่วยให้เราคิดค่าใช้จ่ายได้แบบ Smooth ขึ้น สม่ำเสมอตลอดปี
- ถ้าสินทรัพย์นี้จำเป็นต่อการสร้างรายได้ ยังไงก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า ค่าเสื่อมราคา
ดังนั้น คำพูดที่ว่า “จริงๆ แล้วเรามีกำไรถ้าไม่คิดค่าเสื่อม” จึงแปลความ (แบบไม่เข้าข้างตัวเอง) ได้ว่า “เราขาดทุน เลยอยากคิดว่าค่าเสื่อมราคาไม่ใช่ค่าใช้จ่ายไงล่ะ”
สุดท้ายแล้ว บทสรุปของการทำธุรกิจที่ดีอาจไม่ใช่การหลอกตัวเองว่าค่าเสื่อมไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เราอาจต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำยังไงจึงจะมีกำไรหลังหักค่าเสื่อมเสียมากกว่า
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit