เรื่องที่เจ็บที่สุดของคนทำธุรกิจ หนีไม่พ้นการถูกโกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโกงจากคนที่รักและไว้ใจ อย่างเช่นลูกน้องเนี่ย เจ๊..ยอมไม่ได้
แล้วถ้าไม่อยากโดนโกง บัญชีต้องทำแบบไหน มีเรื่องเกี่ยวกับบัญชีอะไรที่ควรรู้ วันนี้ Zero to Profit จะมาแชร์เคล็ดลับดีๆ ให้ทุกคนฟังกัน
5 วิธีทำบัญชี โกงแบบนี้ ไม่มีรอด
1. ขโมยเงินสด
เงินสดหน้าร้านที่รับมาจากลูกค้าในแต่ละครั้งนั้น มันช่างหอมหวาน เย้ายวนสำหรับพนักงาน (ที่คิดไม่ดี) เสียเหลือเกิน แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่คุมยากสำหรับเจ้าของธุรกิจ (ที่ไม่ได้เฝ้าร้านตลอด 24 ชม.) แต่ก็ยังมีทางป้องกันนะคะ
วิธีการลดโกงที่นักบัญชีนิยมใช้ ได้แก่
- ใช้เครื่อง cash register ที่จดบัญชีให้ทุกครั้งเวลาขายของ
- นำฝากเงินสดเข้าธนาคารทุกสิ้นวัน ซึ่งจำนวนต้องมีเท่ากันกับที่จดไว้ในเครื่อง cash register
- การสุ่ม Surprise check เพื่อนับเงินว่าตรงกับ cash register ไหม
- ถ้าทำได้แยกคนรับเงิน กับคนบันทึกบัญชีจะดีมากๆ
2. สินค้าหาย
ถัดมาก็เป็นเรื่องการทุจริตยอดฮิตที่ลูกน้องนิยมทำกัน คือ การขโมยสินค้า
ถ้าการขโมยเงินสดมันยากนัก ก็ขโมยสินค้ามันเสียเลย ขโมยเสร็จเอาไปขายต่อได้ หรือขโมยแล้วก็เอาไปกินได้ (ถ้าเป็นอาหาร) วิธีการทำบัญชีเพื่อป้องกันสินค้าหาย สามารถทำได้ดังนี้
- เช็คจำนวนสินค้าที่หายไปในแต่ละวัน ว่ามีรายได้เข้ามาด้วยจำนวนเท่ากันหรือเปล่า
- ใช้วิธี barcode เพื่อเช็คสต็อกแบบอัตโนมัติ
- นับจำนวนสินค้าจริงๆ อยู่บ่อยๆ ยิ่งถี่เท่าไรยิ่งดี
- ติดกล้องวงจรปิดในคลังสินค้า ป้องกันความปลอดภัย
3. สร้างลูกค้าปลอมมาหลอกซื้อ
วิธีที่แยบยลกว่าการขโมยตังค์หรือว่าการขโมยสินค้าแบบซึ่งๆ หน้า ก็คือ การสร้างลูกค้าทิพย์ขึ้นมาหลอกซื้อสินค้าจากบริษัทค่ะ การหลอกซื้อวิธีนี้จะเป็นการหลอกซื้อแบบเครดิต นั่นหมายความว่า ลูกค้าจะได้ของไปก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง แต่สุดท้ายลูกค้าคนนี้ก็หายเข้ากลีบเมฆไป ตามเท่าไรก็ไม่เจอตัวสักที
วิธีนี้เราสามารถป้องกันได้ดังนี้
- เช็กความมีตัวตนของลูกค้า ก่อนให้เครดิต
- กำหนดเครดิตที่ให้ลูกค้าแบบจำนวนเงินและจำนวนวัน
- ถ้าจำนวนเงินที่ลูกค้าซื้อของไปถึงเครดิตลิมิตแล้ว ห้ามขายของจนกว่าลูกค้าจะเคลียร์หนี้
- ทำรายงานอายุลูกหนี้
- ถ้าจำนวนวันเกินกว่ากำหนดเช่น 60 วัน ต้องรีบติดตามทวงถามอย่ารอให้ลูกค้าหายไป
4. ยักยอกเงินจากลูกค้า
ตัวถัดมาเป็นเรื่องลูกหนี้ค่ะ การขายของแบบเงินเชื่อ แถมยังต้องมีเซลล์คอยตามเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ทุจริตที่เรามักเจอบ่อยๆ ก็คือ เซลล์เก็บเงินจากลูกค้ามาแล้ว แต่ไม่ส่งให้บริษัท
แล้วการทำบัญชีจะช่วยลดปัญหายักยอกเงินจากลูกหนี้ได้อย่างไรลองมาดูกัน
- ลดการรับเงินผ่านเซลล์ ให้ลูกค้าโอนชำระเงินผ่านบัญชีบริษัทโดยตรงแทน
- ทำรายงานลูกหนี้รายตัว เพื่อติดตามสถานะลูกหนี้
- ส่งรายงานลูกหนี้คงค้างไปให้ลูกค้าตรวจสอบความถูกต้องทุกเดือน
5. โดนบัญชี โกงค่าภาษี
เคสนี้เคยเกิดขึ้นกับเจ้าของธุรกิจหลายเจ้า ที่ไว้ใจให้นักบัญชีชำระภาษีประจำเดือนให้แทน แต่สุดท้ายนักบัญชีรับเงินไปแต่กลับแฮบเอาไว้ ไม่จ่ายชำระภาษีให้กับสรรพากรซะงั้น ในที่นี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าเป็นกรณีศึกษาที่ไม่เหมารวมว่านักบัญชีทุกคนชอบแฮบเงินนะ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
เอาล่ะทีนี้ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมว่า แล้วเจ้าของธุรกิจจะรู้ได้อย่างไรว่านักบัญชีไม่เคยส่งภาษีให้สรรพากรเลย คำตอบก็คือ เราอาจจะโดนจดหมายเรียกเตือนจากสรรพากรค่ะ ซึ่งเมื่อโดนเรียกเตือนแบบนี้ ให้เดาไว้ก่อนเลยว่าเสียภาษีบานแน่นอน
แล้ววิธีการป้องกันนักบัญชี โกงเงินค่าภาษีต้องทำอย่างไร
- ให้นักบัญชีทำแค่บัญชี อย่าให้จับเงินเด็ดขาด
- ขอ Pay-in slip เพื่อจ่ายชำระภาษีโดยตรงกับสรรพากรเท่านั้น
- ก่อนจ่ายชำระ เช็ครายละเอียดในแบบภาษีสักนิดว่าถูกต้องไหม
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดการโกงเงินจากนักบัญชีได้แล้ว และที่สำคัญยังได้ตรวจสอบการทำงานของบัญชีว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่าอีกด้วย
สรุปแล้ว การทำบัญชีมีข้อดียังไงบ้าง?
แม้การทำบัญชีอาจจะไม่ได้ช่วยกำจัดการโกงได้ 100% แต่ช่วยได้แน่นอนเรื่องของการป้องกัน และลดความเสียหายจากการโกง ที่เห็นได้ชัดๆ 3 เรื่อง คือ
1.ลดโอกาสการโกง
โดยปกติแล้วการโกง หรือทุจริต เกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1) โอกาส 2) แรงจูงใจ 3) การหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง
และสิ่งที่เจ้าของกิจการสามารถควบคุมได้ดีที่สุด คือ การลดโอกาสที่จะเกิดการโกง
การทำบัญชีช่วยได้ เพราะการทำบัญชีเป็นการแยกหน้าที่กัน ระหว่างคนที่บันทึกบัญชีและคนทำงานหน้างาน
เช่น คนทำบัญชีจะเป็นคนละคนกับคนรับเงิน (พนักงานขาย) และคนจ่ายเงิน (พนักงานจัดซื้อ)
ถ้าคิดจะทำทุจริต ทั้งคนรับเงินและคนจ่ายเงิน ก็ทำได้ยาก นอกเสียจากจะรู้เห็นเป็นใจกับฝ่ายบัญชีด้วย
2.ควบคุมสินทรัพย์ได้
การทำบัญชีช่วยควบคุมสินทรัพย์กิจการได้ในอีกรูปแบบหนึ่งเพราะทุกรายการที่สั่งซื้อสินทรัพย์เข้ามา ถูกบันทึกบัญชีไว้หมด
เช่น เมื่อซื้อสินค้าเข้ามา สินค้าล็อตนั้นจะถูกบันทึกชนิด จำนวน และมูลค่าเข้ามาในระบบบัญชีไว้ เหมือนเป็นการควบคุมสินค้าเหล่านี้ไว้อย่างเป็นระบบ และเมื่อจะเบิกขาย หรือเบิกใช้ ก็ต้องแจ้งกับทางบัญชีเสมอ
พอมีการควบคุมสินทรัพย์เช่นนี้แล้ว เจ้าของกิจการก็จะรู้มูลค่าของสินทรัพย์ที่ตัวเองมีอยู่ และการยักยอก หรือเบิกใช้สินทรัพย์โดนพลการก็เกิดขึ้นได้ยาก
3.จับโกงได้เร็ว
ยิ่งทำบัญชีได้ตรงต่อเวลาเท่าไร ก็ยิ่งจับโกงได้เร็ว และหยุดความเสียหายได้เร็วขึ้น เพราะเจ้าของกิจการจะมีข้อมูลที่อัพเดทและสะท้อนฐานะจริง
ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เมื่อเจ้าของทราบว่ามีการชำระเงินจากลูกหนี้การค้า และพอมาดูงบการเงินและรายงานลูกหนี้แล้วพบว่าลูกค้าเจ้านี้ยังค้างชำระอยู่ ถึงตอนนี้คงเอะใจขึ้นมาทันทีว่า มีใครยักยอกเงินจากลูกค้าหรือเปล่า และหยุดต้นเหตุการทุจริตได้ทันเวลา
แต่ถ้าไม่มีการบันทึกบัญชีเลย หรือบันทึกบัญชีไม่ทันเวลา กว่าจะได้ดูรายงานอีกทีตอนปลายปี มาถึงตอนนี้คงจับมือใครดมไม่ทันเสียแล้ว
สรุป
แม้ว่าการทำบัญชีอาจจะไม่การันตีว่าเจ้าของกิจการจะไม่โดนโกง แต่แน่นอนที่สุดว่า การป้องกันนั้นย่อมต้นทุนต่ำกว่า และเสียเวลาน้อยกว่า การแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาแล้วต้องพึ่งพาตำรวจเป็นไหนๆ และ 5 วิธีนี้ ก็เป็นวิธีที่นุชแนะนำสำหรับเจ้าของธุรกิจทุกคนค่ะ
แต่สำหรับใครที่กลัวว่าจะถูกเพื่อนสนิทโกง เราแนะนำให้อ่านบทความนี้เพิ่มเติมนะคะ: 5 เรื่องบัญชีต้องรู้ ทำธุรกิจกับเพื่อน แล้วไม่อยากเสียเพื่อนต้องทำไงบ้าง
อยากทำบัญชี เพื่อลดปัญหาโดนโกง ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือhttps://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit