วิธีจัดเกรดลูกค้าจาก AR Aging

วิธีจัดเกรดลูกค้าจาก AR Aging

ลูกค้าเหนียวหนี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ของเจ้าของกิจการที่ขายสินค้าแบบเงินเชื่อ

แต่ถ้าอยากติดตามลูกค้าเหนียวหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโฟกัสให้ตรงจุดกับลูกค้าที่มีปัญหา

เราลองมาจัดเกรดลูกค้าด้วยวิธีการทำ AR Aging กัน

AR Aging คือ การจัดอายุลูกหนี้ โดยที่จะช่วยให้เรารู้ว่าลูกหนี้คนไหนค้างชำระนานๆ และต้องเริ่มติดตามทวงถามเป็นลำดับแรกๆ

จะทำ AR Aging ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง และจะจัดเกรดลูกค้าจาก AR Aging ยังไง เรามาทำความเข้าใจกัน

3 วันที่ต้องรู้จัก

1.วันที่ขายสินค้า

ข้อมูลที่ต้องมีตัวแรกคือ วันที่ขายสินค้า ส่วนใหญ่มักจะยึดข้อมูลตาม “วันที่ในใบแจ้งหนี้” เพราะเป็นวันที่เราส่งมอบสินค้าแล้วและลูกค้ามีภาระที่จะต้องจ่ายหนี้เกิดขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น

นาย A ขายสินค้าให้ B ในวันที่ 1 กย. 64 และออกใบแจ้งหนี้ในวันนั้น เราจะยึดวันที่ 1 กย. 64 เป็นวันที่ขายสินค้า

2.วันที่ครบกำหนดชำระ

วันที่ครบกำหนดชำระ เช็คง่ายๆ จากเครดิตเทอมที่ใครลูกค้า ซึ่งโดยปกติแล้วในใบแจ้งหนี้จะระบุไว้ชัดเจน

ยกตัวอย่างเช่น

จากเคสนาย A ขายสินค้าให้ B ในวันที่ 1 กย. 64 และให้เครดิตเทอมแก่ B จำนวน 30 วัน ฉะนั้น วันที่ครบกำหนดชำระจึงเป็น 30 กย. 64

3.วันที่จัดเกรด

โดยส่วนใหญ่จะเป็นวันที่สิ้นเดือน หรือวันที่ปัจจุบันที่เรากำลังคำนวณเพื่อจัดเกรดลูกหนี้การค้าอยู่นั่นเอง

พอรู้จัก 3 วันนี้ดีแล้ว เราลองไปคำนวณ เปรียบเทียบและจัดเกรดลูกค้ากันดูค่ะ

คำนวณ-เปรียบเทียบ-จัดเกรด

1.คำนวณวันที่ค้างชำระ

ถัดมาเรามาคำนวณวันที่ค้างชำระจากสูตรนี้เพื่อช่วยจัดเกรดลูกค้าในขั้นตอนถัดไปกัน

จำนวนวันที่ค้างชำระ = วันนี้ – วันที่ขายสินค้า

จากตัวอย่างเดิม

สมมติวันนี้เป็นวันที่ 30 พย. 64

จำนวนวันที่ค้างชำระ = วันนี้(30 พย.64) – วันที่ขายสินค้า(1 กย. 64) = 90 วัน

นั่นหมายถึง ตั้งแต่วันที่ขายสินค้าจนถึงปัจจุบัน เป็นจำนวนกว่า 90 วันแล้วที่ นาย A ยังไม่ได้รับชำระหนี้

2.เปรียบเทียบกับเครดิตเทอม

พอคำนวณวันที่ค้างชำระเรียบร้อยแล้ว เราต้องเปรียบเทียบกับเครดิตเทอมที่ให้กับลูกค้า

จากตัวอย่างนาย A ขายสินค้าให้ B รายการนี้ค้างชำระ 90 วัน แต่เครดิตเทอมที่ให้ลูกค้า = 30 วัน หมายความว่าตอนนี้นาย B นั้นเกินกำหนดชำระมา 90-30 = 60 วันแล้ว

และถ้าเรามีการขายหลายๆ ครั้งหรือเปิดใบแจ้งหนี้หลายๆ ใบเราก็สามารถใช้วิธีเดียวกันนี้กับลูกค้าทุกเจ้าได้เช่นกันโดยใช้สูตร Excel ง่ายๆ

3.จัดเกรดลูกค้า

วิธีการจัดเกรดลูกค้าที่ค้างชำระนานสามารถทำได้โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามนี้

  • กลุ่ม A = ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
  • กลุ่ม B = เกินกำหนดภายใน 30 วัน
  • กลุ่ม C = เกินกำหนด 31-60 วัน
  • กลุ่ม D = เกินกำหนด 61-90 วัน
  • กลุ่ม E = เกินกำหนด 91 วันขึ้นไป

ยกตัวอย่างจากข้อมูลเดิม

นาย B ค้างชำระนาน 90 วัน แต่คิดเป็นค้างเกินกำหนด 60 วัน จะถูกจัดหมวดอยู่ในกลุ่ม C

และถ้าเรามีลูกค้าหลายราย และมีการขายหลายครั้ง สูตรนี้ก็ช่วยให้คำนวณและจัดเกรดลูกค้าแต่ละเจ้าได้ง่ายขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการทำ AR Aging เพื่อจัดเกรดลูกค้า แบ่งเป็นกลุ่มยังไม่ถึงกำหนดและค้างชำระนานไล่ตามระดับ เจ้าของกิจการสามารถทำเองได้ง่ายๆ และไม่ต้องใช้สูตรซับซ้อน ลองมาหัดจัดอายุลูกหนี้กันแล้วบางทีอาจรู้ว่าใครกันที่ค้างหนี้นานและเราจะเริ่มจัดการกับพวกเค้าอย่างไรดี

ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่

Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อก Zero to Profit ที่อยากให้เรื่องบัญชีเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ