การทำธุรกิจอย่างที่รู้กันดีว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ไหนจะกำไรที่จะได้รับ ยอดขาย ลูกค้า และอื่นๆอีกมากมาย ถึงบอกว่าการทำธุรกิจไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเริ่มทำธุรกิจไม่ได้ หากมีความรู้ความเข้าใจมากพอ ยิ่งทำธุรกิจเฉพาะทางยิ่งจำเป็นต้องมีความรู้ในด้านนั้นๆอย่างมากเลยทีเดียว เพราะว่าลูกค้าหรือกลุ่มผู้บริโภคก็จำเพาะเจาะจงลงไปด้วย หากเราไม่แม่นยำ ไม่เชี่ยวชาญจริง รับรองว่าลูกค้าหายแน่นอน
ยังมีอีกหลายส่วนที่ลูกค้าเองก็คาดหวังในตัวตัวผู้ประกอบการและธุรกิจ คือเรื่องของคุณภาพและประสิทธิภาพ พร้อมกับการบริการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นี่จะเป็นอีกส่วนที่ผู้ประกอบการละเลยไปไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เพราะมันจะทำให้การทำธุรกิจอาจจะเกิดปัญหาในอนาคตได้ เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเหมือนดังเดิม
รวมถึงเรื่องที่จะพาธุรกิจพังย่อยยับไม่เป็นท่าส่วนหนึ่งก็มาจากความคิดของผู้ประกอบการเอง มีหลายๆครั้งที่ผู้ประกอบการมักจะชะล่าใจมากจนเกินไป และมีชุดความคิดผิดๆที่ทำให้ธุรกิจเจอปัญหาได้ ด้วยการขาดประสบการณ์ก็ดี ด้วยการที่ทำตามความต้องการของตนเองมากเกินไปโดยที่ขาดข้อมูลและการวางแผนก็ดี ฉะนั้นแล้วการทำธุรกิจต้องรอบคอบอย่างมาก เพราะการลงทุนทุกครั้งคือความเสี่ยง เสี่ยงที่จะไม่ได้เงินนั้นคืนมาก็เป็นได้ ควรจะละเอียดรอบคอบและเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริง เข้าใจบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และขยันปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยนั้น ถึงจะเอาตัวรอดได้ และมี 3 ข้อนี้ ที่มักจะคอยฉุดรั้งไม่ให้ธุรกิจเจริญเจิบโตอย่างที่ตั้งใจ
แนวคิดที่ฉุดไม่ให้ธุรกิจเติบโต
1. ลงทุนไปก่อนกำไรค่อยว่ากัน
มีหลายคนที่คิดเช่นนี้ ลงทุนไปก่อน เท่าไหร่เท่ากัน กำไรยังไม่ต้องคิด ขอแค่ขายได้ก็เพียงพอ แต่ความคิดเช่นนี้หมายถึงการไม่วางแผน ละเลยส่วนสำคัญที่เป็นเสมือนหัวใจของธุรกิจ ด้วยความที่ว่ากำไรคือตัวสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้ จำเป็นต้องมีการคำนวนเรื่องต้นทุน กำไร และเรื่องราวการเงินต่างๆในธุรกิจทุกๆส่วนเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการต้องใส่ใจ ไม่มองข้ามในทุกๆรายละเอียด เพื่อเท่าทันทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดในอนาคต
2. เงินธุรกิจคือเงินส่วนตัว
จากประสบการณ์ของนักธุรกิจหลายๆคน มักจะบอกว่าให้แยกกระเป๋าเงินออกจากกัน เงินธุรกิจคือเงินสำหรับใช้จ่ายและต่อยอดธุรกิจ ส่วนเงินส่วนตัวก็คือเงินของเราโดยแท้จริง ควรมีการจัดการรายได้ธุรกิจให้เป็นรูปแบบเงินเดือน และใช้ได้ตามขีดจำกัดเงินเดินที่ควรได้รับ หากนำเงินภายในธุรกิจมาใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด แน่นอนว่ายามธุรกิจมีปัญหา ยามเกิดเหตุไม่คาดฝันธุรกิจเสี่ยงที่จะล้มได้ทุกเมื่อ หรือยามที่ธุรกิจไปได้ดี ก็ขาดเงินไปต่อยอด เพราะนำเงินของธุรกิจมาใส่วนตัวไปหมดแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ แยกให้ชัดเจน ทำให้เป็นระบบ จัดให้เป็นระเบียบ
3. การทำบัญชีไม่จำเป็น
ปัญหาคลาสสิคที่มีทุกยุคสมัยคือไม่ให้ความสำคัญในการทำบัญชีธุรกิจ จะบอกว่าการทำบัญชีธุรกิจช่วยเราได้มากกว่าที่คิด และมีประโยชน์มากกว่าที่เราเคยเข้าใจ การทำบัญชีช่วยให้เราเห็นรายละเอียดต่างๆ และสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น หากพบว่าส่วนไหนไม่จำเป็นก็ตัดออก โยกย้ายมาสนับสนุนส่วนที่จำเป็นมากกว่า หรือแม้กระทั่งนำไปต่อยอดธุรกิจในอนาคต อย่างการกู้สินเชื่อ หรือกระทำธุรกรรมต่างๆภายในธุรกิจก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ง่ายต่อการตวจสอบอีกด้วย อยากให้ผู้ประกอบการทุกคนเล็งเห็นความสำคัญในส่วนนี้ ควรทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน มีการประเมินบัญชี เช็คข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เราเห็นว่า ตอนนี้ธุรกิจเราเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่ต้องจัดการ และปรับปรุงหรือไม่ แม้มือใหม่ก็ทำได้ และช่วยให้เข้าใจภาพรวมภายในธุรกิจมากขึ้นอีกด้วย
หลายคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจอยู่อาจจะยังลังเลสงสัยว่ามีอะไรบ้างที่ห้ามทำ และควรลีกเลี่ยง ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งดี เพราะจะทำให้ไม่ก้าวไปสู่ความผิดพลาดนั้นๆ ซึ่งการทำธุรกิจหากเราติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อๆไปก็ผิดอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นแล้วรู้ไว้ได้เปรียบ 2 สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit