คนทำธุรกิจ ถ้าอยากรู้ว่ากิจการรวยขึ้นหรือไม่ พลาดไม่ได้ที่จะต้องอ่านงบดุล หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่า งบแสดงฐานะการเงิน
งบนี้อาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาสักเท่าไรนัก สำหรับเจ้าของธุรกิจ เพราะส่วนใหญ่เรามักจะให้ความสนใจเรื่องผลดำเนินงานจากงบกำไรขาดทุนเสียมากกว่า
แต่ถ้าวันนี้เราอยากรู้ว่ากิจการร่ำรวยมั้ย แค่การอ่านงบกำไรขาดทุนได้อาจจะไม่เพียงพอ เพราะความจนหรือรวยของกิจการ นั้นต้องอ่านจากงบแสดงฐานะการเงินเท่านั้นจ้า
วิธีอ่านงบแสดงฐานะการเงินแบบเข้าใจง่ายๆ ภายใน 5 นาทีทำยังไง ลองตั้งสติแล้วมาหัดอ่านไปพร้อมๆ กันค่ะ
งบดุล คืออะไร ?
- งบดุล หรือว่างบแสดงฐานะการเงิน คือ งบที่บอกว่า ณ วันนี้กิจการมีสถานะการเงินเป็นอย่างไรบ้าง หรือจะพูดง่าย ๆ ว่างบนี้เป็นงบที่บอกความรวยหรือจนของกิจการก็ไม่ผิด
- งบแสดงฐานะการเงิน จะบอกสถานะการเงิน ณ วันใดวันนึง ซึ่งเวลาอ่านงบ ต้องดูดีๆ ว่าเรากำลังดูสถานะการเงิน ณ วันไหน เช่น ณ วันที่ 31 ธค. 65 อาจจะรวยหรือจนไม่เท่ากับ ณ วันที่ 31 ธค. 64
สมการของงบดุล
- งบดุลนี้ เกิดจากสมการทางบัญชีที่มีเพียงสามตัวแปร ที่ว่า สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ เสมอ
- จึงเป็นที่มาที่ไปว่าทำไม เราเคยรู้จักงบนี้ ในชื่อว่า “งบดุล” ก็เพราะว่าฝั่งซ้ายต้องเท่ากับฝั่งขวาเสมอนั่นไงล่ะ
อ่านงบดุล ต้องเข้าใจ 3 องค์ประกอบนี้
ถัดมาทุกคนคงสงสัยใช่ไหมว่า องค์ประกอบทั้ง 3 ตัวของสมการเนี่ย มันคืออะไร…..เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟัง
1.สินทรัพย์
สินทรัพย์ ก็คือ ของของกิจการ ที่ให้ประโยชน์กับเราในอนาคตค่ะ
เปรียบเทียบง่ายๆ แบบนี้
- บุคคลธรรมดาอย่างเราๆ มีสินทรัพย์เป็นรถยนต์ใช้ขับไปทำงาน
- ธุรกิจก็มีสินทรัพย์ของตัวเองได้ วัตถุประสงค์เพื่อหารายได้เข้ามาในธุรกิจ เช่น ธุรกิจร้านสะดวกซัก มีเครื่องซักผ้า 20 เครื่องเป็นสินทรัพย์ของธุรกิจ
สินทรัพย์ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ สินทรัพย์หมุนเวียน และไม่หมุนเวียน
1.สินทรัพย์หมุนเวียน
สินทรัพย์หมุนเวียน คือ สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วภายใน 1 ปี เช่น
- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด นึกภาพง่ายๆ ก็คือ พวกเงินสดและเงินฝากธนาคารที่ไม่ได้เอาไปวางค้ำประกันเงินกู้ อยากถอนใช้เมื่อไรก็ทำได้ ไม่มีใครห้าม
- ลูกหนี้การค้า ส่วนนี้คือ ลูกหนี้ที่เกิดจากการขายสินค้าแบบเงินเชื่อ และยังไม่ได้รับเงิน
- สินค้าคงเหลือ ชื่อก็ตรงตัวอยู่แล้ว มันคือ สินค้าที่เหลืออยู่ ณ วันสิ้นงวด เช่น พวกวัตถุดิบ งานระหว่างผลิต และสินค้าสำเร็จรูป ที่ยังขายไม่ได้
- สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น คืออะไรก็ตามที่ไม่เข้าพวกสินทรัพย์ด้านบน ก็จะมารวมกันอยู่ตรงนี้
2.สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน คือ สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องน้อย ให้ประโยชน์หรือเปลี่ยนเป็นกระแสเงินสดได้ในเวลาเกินกว่า 1 ปี ยกตัวอย่างเช่น
- ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สินทรัพย์พวกนี้เป็นสินทรัพย์ที่ใช้สร้างรายได้เข้ามาในกิจการ ระยะเวลาการใช้งานยาวกว่า 1 ปี เช่น โรงงาน เครื่องจักร ข้อสังเกตของสินทรัพย์ชนิดนี้ จะมีลักษณะเฉพาะตัวของเค้าก็คือ จะมีค่าเสื่อมราคา ที่เป็นค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกๆปี เพราะการเสื่อมสภาพของสินทรัพย์ไป
- สินทรัพย์ไม่มีตัวตน ถือเป็นสินทรัพย์ระยะยาวที่จับต้องไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ซอฟท์แวร์ต่างๆ ลิขสิทธิ์ต่างๆ ในแต่ละปีจึงมีการคิดค่าตัดจำหน่าย (คล้ายๆ กับค่าเสื่อมราคาแต่เรียกชื่อต่างกัน) เพื่อลดมูลค่าลงให้ใกล้เคียงประโยชน์ใช้สอยจริง
2.หนี้สิน
หนี้สิน คือ ภาระผูกพันที่เจ้าของธุรกิจจะต้องจ่ายคืนให้กับคนภายนอก เหมือนๆ กับหนี้ที่เราติดค้างเพื่อนๆ อยู่แล้วยังไม่จ่าย แต่อันนี้เป็นหนี้สินของธุรกิจ ที่เราอาจจะติดค้างกับซัพพลายเออร์ หรือธนาคารอยู่
หนี้สินก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ หนี้สินหมุนเวียน และหนี้สินไม่หมุนเวียน
1.หนี้สินหมุนเวียน
หนี้สินหมุนเวียน คือ ภาระผูกพันที่ต้องจ่ายคืนแก่คนภายนอกในระยะเวลา 1 ปี ยกตัวอย่างเช่น
- เจ้าหนี้การค้า ส่วนใหญ่จะเกิดจากเจ้าหนี้การซื้อสินค้าและบริการ ที่เราค้างเค้าอยู่ยังไม่จ่ายออกไป ณ วันสิ้นงวด
- เงินกู้ยืมระยะสั้น ง่ายๆ ตรงตามความหมายเลยค่ะ มันคือเงินที่ไปกู้คนอื่นมา แล้วต้องจ่ายคืนภายใน 1 ปีนั่นเอง ภาระของหนี้ตัวนี้อีกส่วน ก็คือ ดอกเบี้ยจ่าย หรือต้นทุนทางการเงินที่ไปโผล่ในงบกำไรขาดทุน
- หนี้สินหมุนเวียนอื่น คือ หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ ที่เหลือจากการจัดกลุ่มด้านบนนั่นเอง
2.หนี้สินไม่หมุนเวียน
หนี้สินไม่หมุนเวียนนั้นเป็นภาระผูกพันที่กิจการต้องจ่ายชำระภายในระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี เช่น พวกเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะจ่ายหลังจาก 1 ปีข้างหน้า เป็นต้น
3. ส่วนของเจ้าของ (ส่วนของผู้ถือหุ้น)
ส่วนของเจ้าของ (หรือ ส่วนของผู้ถือหุ้น) ก็คือ ส่วนที่เหลือจากสินทรัพย์หักด้วยหนี้สิน (นิยามตรงตามสมการเป๊ะ) เสมือนเป็นสินทรัพย์สุทธิที่เหลือให้เจ้าของกิจการจริงๆ หลังจากการจ่ายคืนหนี้สินแล้ว
องค์ประกอบ 2 ส่วนหลัก ของส่วนของเจ้าของ ก็คือ
1.ทุนเรือนหุ้น
ทุนเรือนหุ้น คือ เงินที่หุ้นส่วนทุกคนลงทุนกันเพื่อทำธุรกิจนี้ ตัวเลขในนี้ตรงไปตรงมา ไม่ต้องตีความให้ยาก
2.กำไรหรือขาดทุนสะสม
กำไรหรือขาดทุนสะสม ซึ่งเป็นผลการทำธุรกิจมาตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน ถ้ามีกำไรหรือขาดทุนในแต่ละปีก็จะทบมาเรื่อยๆ และแสดงออกมาที่นี่
ส่วนตรงนี้จะช่วยบอกความสามารถของเจ้าของธุรกิจได้กลายๆ ว่าบริหารงานเก่งไหม
- ถ้าโชคดีบริหารเก่งกิจการมีกำไรสะสม คือ กำไรที่หาได้ในแต่ละปีสะสมทบเข้าไปเรื่อยๆ ยอดนี้ก็จะโตวันโตคืน
- แต่ถ้าโชคร้ายบริหารไม่ดี ส่วนตรงนี้จะกลายเป็นขาดทุนสะสมแทน เครื่องหมายก็จะกลายเป็นติดลบในงบนี้
ตัวอย่างงบดุล (งบแสดงฐานะการเงิน)
เข้าใจความหมายของทั้ง 3 ตัวในสมการแล้ว เราลองเลื่อนมาดูตัวอย่างงบแสดงฐานะการเงินจริงกันบ้าง ว่าหน้าตาเป็นยังไง
- ถ้าลองกวาดสายตาดีๆ จะเห็นว่างบนี้แบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ คือ สินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ
- ยอดรวมของสินทรัพย์ จะเท่ากับผลรวมหนี้สินและส่วนของเจ้าของเสมอ สังเกตุง่ายๆ จากลูกศรสีแดง ตามสมการที่ว่า สินทรัพย์ = หนี้สิน+ส่วนของเจ้าของ (แหม…สมการนี้ย้ำเหลือเกิน)
- แต่ละส่วนก็จะมีองค์ประกอบย่อยๆ แบ่งออกไป ตามที่เราได้อธิบายกัน ซึ่งแต่ละธุรกิจก็จะมีลักษณะเฉพาะตัวและส่วนประกอบแตกต่างกัน
คำถามถัดมา ถ้าเห็นงบแสดงฐานะการเงินแบบนี้แล้วแปลว่าอะไร?
- จากตัวอย่างนี้ แปลความง่ายๆ ได้ว่า ณ วันที่ 31 ธค x3 กิจการนี้มีสินทรัพย์ 336,300 บาท และหนี้สิน 65,340 บาท ส่วนของสินทรัพย์ที่มากกว่าหนี้สินนี้แสดงออกในรูปแบบของสินทรัพย์สุทธิ หรือส่วนของเจ้าของเท่ากับ 270,960 บาท
- สินทรัพย์ที่มากกว่าหนี้สินเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกๆ กิจการก็คาดหวังว่าจะมีสินทรัพย์มากๆ หนี้สินน้อยๆ เพื่อให้เหลือส่วนของเจ้าของเยอะๆ
- แต่ถ้าอยากเห็นว่าเรารวยขึ้นกว่าเมื่อวานไหม แนะนำให้ลองเอางบไปเปรียบเทียบกับปีก่อนดู เช่น เทียบกับวันที่ 31 ธค x2 เพื่อดูว่าส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้นบ้างมั้ย ถ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมก็เป็นเรื่องที่ดี
สรุป เรารู้อะไรบ้างจากการอ่านงบดุล
พาทุกคนอ่านงบมาตั้งนาน พอจะรู้ไหมคะว่าอ่านงบนี้แล้ว ได้อะไรกลับไปบ้าง
สั้นๆ ง่ายๆ เลย สิ่งที่เราควรรู้จากการอ่านงบดุล ก็คือ
- วันนี้กิจการมีสินทรัพย์อะไรบ้าง เป็นสินทรัพย์หมุนเวียนและไม่หมุนเวียนเท่าใด
- วันนี้กิจการมีหนี้สินอะไรบ้าง เป็นหนี้สินหมุนเวียนและไม่หมุนเวียนเท่าใด
- สินทรัพย์ที่มี มีมากพอที่จะจ่ายคืนหนี้สินหรือไม่
- กิจการเหลืออะไรเป็นส่วนของเจ้าของบ้าง
- วันนี้กิจการรวยขึ้นจากเดิมหรือไม่ และทำอย่างไรจึงจะรวยขึ้น
เห็นมั้ยว่าแค่ลองอ่านงบแสดงฐานะการเงินเบื้องต้น ทุกคนก็พอจะเข้าใจสถานะการเงินของกิจการได้ดีขึ้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
และที่สำคัญอย่าลืม หาวิธีสร้างสินทรัพย์ให้งอกเงย ลดหนี้สินลง และสุดท้ายจะมีส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้นสำหรับกิจการนั่นเอง
สำหรับเจ้าของธุรกิจคนไหนที่อยากไปได้ไกลกว่านี้ ลองต่อยอดหัดวิเคราะห์งบการเงินด้วยตัวเองได้ตามขั้นตอนนี้เลย: วิเคราะห์งบการเงินคืออะไร ทำยังไงได้บ้าง
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit