ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจกับแฟนต้องรู้อะไรบ้าง

ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจกับแฟนต้องรู้อะไรบ้าง

การทำธุรกิจไม่ว่าจะทำคนเดียว ทำกับครอบครัว เพื่อน หรือแฟนก็มีความแตกต่างกันออกไป ด้วยยุคสมัยในปัจจุบันผู้คนหันมาทำธุรกิจกันมากขึ้น  บ้างก็สืบทอดธุรกิจของครอบครัว รวมทั้งมีชุดความที่ว่า การทำธุรกิจย้อมมีอิสระมากกว่า อีกทั้งยังสร้างความมั่นคงในระยะยาวได้มากกว่า พร้อมกับสามารถส่งต่อให้กับทายาทได้ ซึ่งไม่มีความคิดไหนผิดหรือถูก เพราะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแต่ละคนมากกว่า แต่การจะทำธุรกิจทั้งที่ย่อมมีข้อที่ควรรู้ หากคิดทำธุรกิจกับแฟนแล้วหล่ะก็ยิ่งต้องรอบคอบอย่างมาก รู้ก่อนปัญหาเกิดเป็นการดีที่สุด

ทำธุรกิจกับแฟนดีไหม ?

หลายคนกำลังคิดไม่ตกว่าจะทำด้วยกันดีไหม หรือแยกกันทำคนละธุรกิจไปเลย แต่อีกใจการทำด้วยกันก็ดีจะได้ช่วยกันทำมาหากินให้สุดทางกันไปตามเป้าหมายที่วางร่วมกันเอาไว้ คำถามพวกนี้คงวกวนและกวนใจอยู่ไม่น้อย หากจะตอบว่าการทำธุรกิจกับแฟนก้ไม่ต่างจากการทำธุรกิจกับคนอื่นๆ เพราะจะต้องทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง โปร่งใสก่อกันและกัน รวมถึงมีแผนการทำงานที่ชัดเจน ธุรกิจถึงจะเติบโตไปไปได้อย่างยืนยาว หากบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ การทำธุรกิจไม่ว่าจะกับใครก็ย่อมมีปัญหาเป็นธรรมดา นั้นควรเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือกับปัญหาในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างทำงานร่วมกัน

เริ่มต้นอย่างไรดีไม่ให้มีปัญหา

1. วางแผนธุรกิจให้ดี

การวางแผนเป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกันและเป็นแผนที่ทั้งสองคนยอมรับได้ ก่อนจะทำธุรกิจควรพูดถึงความต้องการ และเป้าหมายของกันและกันว่า สิ่งที่ตั้งใจจะทำนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันไหม คิดอะไรเหมือนกันบ้าง และมีอะไรที่ต่างกันบ้าง เพื่อนำมาปรับและเตรียมตัวเข้าสู่การวางแผน ในการเริ่มทำธุรกิจร่วมกันนั้นควรมีการพูดคุยกันให้มาก พยามจดและลิสต์ข้อมูลออกมาเป็นข้อๆให้มากที่สุดเพื่อนำมาต่อยอดและวิเคราะห์ทิศทางในการทำธุรกิจ หากเห็นแนวโน้มว่าจะมีปัญหา และเกิดภาวะการไม่เข้าใจกันบ่อยครั้ง จนทำให้งานหลายๆส่วนไม่คืบหน้า นั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่ว่าไม่ควรทำธุรกิจด้วยกันก็เป็นได้ อีกทั้งการทำธุรกิจร่วมกันในฐานะคนรัก จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายแสดงความคิดเห็น หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาแต่ใจและยึดถือความคิดของตนเองเพียงผู้เดียวจนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไร้คุณค่า ไร้เสียง ไร้ตัวตน การทำธุรกิจร่วมกันคงไม่ใช่คำตอบ

2. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ

ข้อนี้มีหลายคนที่ยังทำไม่ได้ และไม่ได้วางแผนตั้งแต่ต้น จึงเกิดปัญหาตามมาและแก้ไขได้ยาก ก่อนที่จะลงมือทำธุรกิจร่วมกันต้องแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนว่าใครทำหน้าที่อะไร รับผิดชอบส่วนไหน  หากไม่มีการแบ่งหน้าที่การทำงานอาจจะทำให้เวลาที่ต้องทำงานจริงเกิดความวุ่นวาย งานไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่คาดหวังเพราะถูกละเลย และไม่รู้ว่าตนเองต้องทำหน้าที่อะไรภายในธุรกิจ ฉะนั้นแล้ววางบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนให้ชัดเจน และแจ้งรายละเอียดภายในหน้าที่ว่าขอบข่ายการทำงานมีอะไรบ้าง เพื่อให้การทำงานออกมาตรงจุดประสงค์และประเมินผลได้

3. การเงินต้องโปร่งใสและเป็นระบบ

ไม่ว่าจะทำธุรกิจกับใครก็ตามการเงินคือปัจจัยหลักๆและปัจจัยแรกๆที่ทำให้คนทะเลาะกัน ต่อให้รักกันมากก็ผิดใจเพราะเงินมาไม่น้อย ฉะนั้นแล้วต้องเป็นระบบทั้งเงินเข้า เงินออก เงินลงทุน กำไร ทางที่ดีในการจะทำธุรกรรมต่างๆทางการเงินควรมีเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและโปร่งใสในระบบการเงินนั่นเอง

4. เอกสารทุกฉบับต้องตรวจสอบได้ทั้ง2ฝ่าย

เอกสารคือส่วนประกอบสำคัญไม่ว่าจะเอกสารการซื้อ – ขาย รายจ่ายต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจของเรา ต้องชัดเจนและตรวจสอบที่มาที่ไปได้ มีหลายกรณีที่ทำให้คู่รักที่ทำธุรกิจไปไม่รอด อย่างเช่น การปลอมแปลงเอกสาร การทำงานโดยไร้หลักฐานอย่างเอกสาร เป็นต้น เมื่อธุรกิจมีปัญหาขึ้นจะไม่สามารถเรียกตรวจสอบได้ ถือเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และควรจัดทำระบบเอกสารอย่างดีและสะดวกต่อการตรวจสอบ

5. ต้องเชื่อใจ

หลายคนอาจจะคิดไม่ตกว่าจะไว้ใจกันได้จริงหรือไม่ เพราะบางคนเองก็อาจจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดี หรืออาจจะเห็นจากข่าวไม่มากก็น้อยที่แม้กระทั่งสามีภรรยาที่อยู่กินร่วมกัน 30-40 ปีก็ยังโกงกันได้ กับการที่เป็นคนรักแค่ไม่กี่ปีจะไว้ใจได้อย่างไร ต้องบอกว่าการทำธุรกิจต้องไว้ใจและเชื่อใจดัน ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงและตรวจสอบได้ มีความถูกต้องของข้อมูลภายในธุรกิจ หากทุกอย่างดปร่งใจไว้ใจได้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง

ข้อควรระวังเป็นพิเศษ

1. ปัญหาเรื่องส่วนตัว

การเป็นคนรักกันย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา หากคิดจะทำธุรกิจต้องยอมรับเรื่องนี้ได้ว่าอาจจะเกิดขึ้น และควรแยกแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันมิฉะนั้นจะทำให้การดำเนินธุรกิจไม่ราบรื่นและพอกพูนปัญหาใหม่ๆเข้าไปอีก แสดงความเป็นมืออาชีพต่อกัน และเคารพหน้าที่ของกันและกันให้มากที่สุด

2. ปัญหาครอบครัว

การทำธุรกิจมีบางคู่อาจจะนำครอบครัวมาเกี่ยวข้องด้วย เมื่อมีการนำครอบครัวเข้ามามีบทบาท หรืออยู่เบื้องหลังของการทำธุรกิจ ก็ควรจะแจ้งให้อีกฝ่ายทราบ และควรเคารพซึ่งกันและกัน  รวมถึงควรแจ้งครอบครัวในเรื่องของขอบข่ายหน้าที่ของแต่ละคน รวมถึงครอบครัวด้วย ไม่ควรก้าวก่ายซึ่งกันและกัน  หลายธุรกิจพังเพราะครอบครัวนำปัญหามาให้ มีไม้น้อยที่นำปัญหาไปสู่ครอบด้วยเช่นกัน

ติดตาม Zero to Profit ได้ที่

Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า