ซื้อของมาทำธุรกิจจริง จ่ายเงินจริง แต่ไม่ได้ใบเสร็จรับเงินมาซะงั้น
เจอปัญหาแบบนี้เจ้าของธุรกิจก็ยิ่งปวดหัวใหญ่ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่ารายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายธุรกิจจ่ายออกไปบันทึกบัญชีก็ลำบาก แถมทางภาษียังไม่ยอมให้เป็นรายจ่ายทางภาษีอีก ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ กำไรเยอะกว่าปกติ และในที่สุดก็เสียภาษีมากกว่าที่ควรจะเสียไงล่ะ
ถ้าใครกำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ ถามหมอดูก็อาจจะไม่รู้คำตอบ วันนี้ Zero to Profit ขออาสามาช่วยทุกคนแก้ปัญหา ซื้อของแล้วไม่ได้ใบเสร็จรับเงินไปพร้อมๆ กันเลย
ลำดับแรกมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “ใบเสร็จรับเงิน” ที่สมบูรณ์ต้องมีอะไรบ้าง?
ใบเสร็จรับเงินที่ดีจำง่ายๆว่าต้องมีองค์ประกอบทั้งหมด 6 ข้อนี้ครบถ้วน
1. ใครขาย – ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคนขาย 3 สิ่งนี้ต้องระบุให้ครบถ้วน
2. ใครซื้อ – แบบเดียวกับคนขาย ทั้งชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคนซื้อเอง ก็ต้องระบุลงไปในใบเสร็จให้ครบ ฉะนั้น ถ้าใครรับบิลเงินสด หรือใบเสร็จที่ ระบุแค่คำว่า “สด” แบบนี้ระบุตัวตนไม่ได้ว่าเป็นใคร สรรพากรเห็นก็ไม่ปลื้มแน่นอน
3. ขายอะไร – รหัสสินค้า ชื่อสินค้า รายละเอียดสินค้า ว่าใบเสร็จรับเงินใบนี้ขายอะไร อย่าลืมระบุให้ครบถ้วนด้วยนะ
4. ราคาเท่าไร – ของแต่ละชิ้นราคาเท่าไร ไม่ว่าใครก็คงอยากรู้ ถ้าจะทำใบเสร็จให้สมบูรณ์ทั้งที อย่าลืมใส่ข้อมูลราคาสินค้าให้เรียบร้อย
5. วันที่/เลขที่ – ทั้งวันที่ใบเสร็จ และเลขที่ใบเสร็จ เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกคนขายมีการควบคุมเอกสารใบเสร็จที่ดี
6. เซ็นต์รับเงิน – ถ้ารับเงินจริงก็ควรต้องเซนต์ยืนยันการรับเงินให้ครบถ้วนด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญ ใบเสร็จรับเงินนั้น อาจไม่ได้เขียนบนหัวกระดาษว่า “ใบเสร็จรับเงิน” เสมอไปก็ได้ บางทีอาจใช้คำว่า “บิลเงินสด” ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าชื่อเอกสารนั่นก็คือ องค์ประกอบทั้ง 6 ข้อต่างหากล่ะ ถ้าบิลเงินสดมีครบถ้วนก็ไม่ได้ผิดอะไรที่คนขายจะออก “บิลเงินสด” ให้เราจ้า
วิธีแก้ปัญหาถ้าไม่ได้ใบเสร็จรับเงิน
ถ้าซื้อของแล้วไม่ได้ใบเสร็จรับเงิน เจ้าของธุรกิจก็งานเข้าทันที เพราะทางบัญชีก็บันทึกรายจ่ายให้ไม่ได้ ส่วนภาษีก็ไม่สามารถเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ ทีนี้วิธีแก้ไขเราจะทำยังไงได้บ้างลองมาดูกัน
ทางออกของปัญหาจ่ายเงินแล้ว ใบเสร็จไม่มี หรือ มีแต่องค์ประกอบไม่ครบ เจ้าของธุรกิจต้อง “ทำเอกสารเพิ่ม” เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่ารายจ่ายนี้ได้จ่ายออกไปเพื่อธุรกิจจริงๆ นะ ซึ่งทางกรมสรรพากรเองก็ออก คู่มือการจัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชีให้เป็นรายจ่ายทางภาษีได้ มาให้ มีให้เลือก 3 แบบแล้วแต่สถานการณ์ ดังนี้
1.ใบรับเงิน
ใบรับเงินเป็นเอกสารที่คนขายยอมออกให้ตามที่เราร้องขอ ชื่อเต็มเรียกว่า “ใบรับเงินตามมาตรา 105ทวิ” ซึ่งต้องระบุรายละเอียดสำคัญในใบรับเงินตามนี้
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบรับ
- ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ออกใบรับ
- เลขลำดับของเล่มและของใบรับ
- วันเดือนปีที่ออกใบรับ
- จำนวนเงินที่รับ
- ชนิด ชื่อ จำนวนและราคาสินค้า
ถ้าใครทำบุญมาดี คนขายยอมออกเอกสารใบนี้ให้ ก็เป็นอันว่าเรามีเอกสารครบถ้วนสำหรับบันทึกรายจ่ายแล้ว แต่เท่าที่เจอจากประสบการณ์ ถ้าคนขายไม่ยอมทำแม้แต่ใบเสร็จรับเงิน หรือบิลเงินสด มันก็ยากส์มากๆ ที่เค้าจะมานั่งทำ “ใบรับเงิน” ใบนี้ตามที่เจ้าของธุรกิจร้องขอ
แต่ก็ใช่ว่าชีวิตจะสิ้นไร้หนทางซะทีเดียว เรายังมีเอกสารอีก 2 ตัวที่เราทำได้ เพื่อใช้ทดแทนใบเสร็จรับเงิน
2.ใบสำคัญรับเงิน
เป็นเอกสารที่คนซื้อทำเอง แล้วให้คนขาย (รับเงิน) เซนต์รับ
ถ้าใบเสร็จก็ไม่มี ใบรับก็ไม่ยอมออกให้ Step ถัดมาเจ้าของธุรกิจที่จ่ายค่าใช้จ่ายไปแล้วอาจจะลองทำเอกสาร “ใบสำคัญรับเงิน” นี้ให้คนรับเซ็นต์แก๊กนึง ยินยอมว่าเค้าขายของให้เราจริง และได้รับเงินจากเราไปจริง
แต่ความยากของมันอยู่ที่ เราต้องมีข้อมูลคนรับเงิน ตั้งแต่ชื่อ-สกุล ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีให้ครบถ้วน เพื่อที่จะมากรอกในเอกสารใบนี้ และแน่อนว่าถ้าเป็นบุคคลธรรมดา เราต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนไว้ด้วย ถ้าได้ข้อมูลครบตามนี้ก็เป็นอันว่าปัญหาเรื่องรายจ่ายก็จบไป
แต่บางทีชีวิตมันก็ไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ ถ้าหาเอกสารข้อ 1 และ 2 ไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไงต่อดี…ลองมาดูวิธีแก้ข้อ 3 กัน
3.ใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน
เอกสารใบนี้เป็นเอกสารที่คนซื้อทำเอง เซนต์รับรองเอง (นักเลงพอ)
โดยเนื้อหาในเอกสารจะระบุว่าเราเป็นพนักงานของธุรกิจ จ่ายรายจ่ายออกไปวันที่เท่านี้ รายละเอียดดังนี้ และไม่อาจเรียกขอใบเสร็จรับเงินจากผู้รับได้ แต่สำหรับใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงินก็มีข้อแม้เช่นกันว่า รายจ่ายที่เกิดขึ้นควรจะเป็นรายจ่ายแบบเบ็ดเตล็ดจริงๆ เช่น ซื้อดอกไม้พวงมาลัยไว้พระ ถ่ายเอกสาร เป็นต้น ไม่ใช่ซื้อรถ 1.5 ล้าน ใช้ใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน แบบนี้สรรพากรตาเขียวแย่
ทั้ง 3 เอกสารที่เล่ามานี้เป็นวิธีแก้ปัญหาซื้อของแล้วไม่ได้ใบเสร็จรับเงิน หรือได้มาแหละแต่ข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ฉะนั้น เจ้าของธุรกิจก็เลยต้องเหนื่อยเพิ่มหน่อยเพื่อทำเอกสารประกอบ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า เอกสารธุรกิจแต่ละแบบก็จะมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือต่างกัน เรียงลำดับจากมาก-น้อยตามนี้
- คนขาย (ภายนอก) ออกเอง
- คนซื้อ (ภายใน) ทำให้ คนขาย (ภายนอก) เซ็นต์
- คนซื้อ (ภายใน) ทำเอง เซ็นต์เอง
และสุดท้ายการไม่มีเอกสารใดๆ เลย = น่าเชื่อถือน้อยสุดๆ
อ่านมาจนถึงตรงนี้ Zero to Profit คิดว่าทุกคนน่าจะเห็นวิธีแก้ปัญหาถ้าไม่ได้รับใบเสร็จรับเงินแล้ว แม้จะไม่ได้ยาก แต่ก็แอบเสียเวลาอยู่จริงไหม
ถ้าเราเลือกได้ คงเลือกซื้อของกับเจ้าที่มีใบเสร็จรับเงิน มากกว่าจะมาเสียเวลาทำเอกสารให้สมบูรณ์ และคนขายเองก็เช่นกัน ถ้ารู้ว่าใบเสร็จรับเงินมันจำเป็นแค่ไหนสำหรับธุรกิจ นี่อาจจะเป็นเวลาที่ดีที่จะเริ่มต้นออกใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้า เพราะนี่อาจเป็นอีก 1 แรงจูงใจให้ลูกค้าเลือกเรามากว่าคู่แข่งอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.rd.go.th/fileadmin/download/15277290359.pdf
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit