ก่อนจ่ายเงิน เช็กแบบนี้ เงินไม่หนีไปไหนแน่นอน

ก่อนจ่ายเงิน เช็กแบบนี้ เงินไม่หนีไปไหนแน่นอน

กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทนั้นช่างยากเหลือเกิน แต่ทว่าการเก็บเงินไว้ไม่ให้รั่วไหล นั้นอาจจะยากยิ่งกว่า ถ้าเราไม่วางระบบให้รัดกุมเพียงพอ

เพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจกำลังมีปัญหานี้อยู่ไหมคะ “หาเงินได้เยอะ แต่ก็เก็บเงินไม่อยู่” ถ้าใช่ ทุกคนควรศึกษาเรื่องนี้ให้ดีๆ เลยค่ะ

เพราะวันนี้ Zero to Profit จะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจวิธีเช็กการจ่ายเงินให้อยู่หมัด กำจัดเงินรั่วไหลออกจากธุรกิจค่ะ

ก่อนจ่ายเงิน เช็กแบบนี้ เงินไม่หนีไปไหนแน่นอน

1. เช็กก่อนจ่าย
1. เช็กก่อนจ่าย

1. เช็กก่อนจ่าย

ขั้นตอนแรก เช็กให้ดีก่อนจ่ายเงิน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการป้องกันการจ่ายเงินออกไปโดยไม่ถูกต้อง

สิ่งที่เราต้องเช็คคู่กันมี 2 สิ่งอย่างน้อยๆ

  • ใบแจ้งหนี้ (บางทีซัพพลายเออร์ส่งมาพร้อมกับใบส่งสินค้า/ใบกำกับภาษีค่ะ)
  • สินค้าหรือบริการที่ได้รับ

ทุกครั้งก่อนกดจ่ายชำระเงิน เช็กให้ดีนะคะว่าเราได้ของมาหรือยัง หรือว่าได้รับบริการนั้นจริงๆ หรือยัง เพราะในบางครั้งเราเห็นใบแจ้งหนี้ส่งมาก็ชำระเงินทันที โดยไม่ตรวจดูให้ดีเสียก่อน

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับกิจการที่เจ้าของธุรกิจมอบหมายหน้าที่ให้เสมียณ หรือว่าทีมงานเป็นคนจัดการ เพราะพวกเค้าเหล่านั้นอาจไม่รู้ว่าสินค้าและบริการนี้ ได้รับเข้ามาจริงในกิจการหรือไม่

ทางที่ดี เราควรกำชับทีมงานว่าให้ตรวจเช็ค ข้อมูลในใบแจ้งหนี้ ว่า 1) ได้รับสินค้าจริง ปริมาณตรงกับใบแจ้งหนี้แล้ว 2) มูลค่าเงินตรงกับที่ตกลงกันไว้ ในสัญญา หรือว่าเสนอราคาที่จัดทำตั้งแต่แรกแล้ว

2. เช็กหลังจ่าย
2. เช็กหลังจ่าย

2. เช็กหลังจ่าย

ขั้นตอนถัดมา หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว เราเองก็ต้องเช็กเหมือนกันค่ะ ว่า

  1. ซัพพลายเออร์ให้ “ใบเสร็จรับเงิน” กลับมาจริงหรือไม่
  2. จำนวนเงินออกจาก “Bank Statement” ตรงกันหรือเปล่า

ในปัจจุบันมิจฉาชีพก็แฝงตัวมาในหลายรูปแบบ แม้ว่าเราจะจ่ายเงินออกไปแล้วจริงตามใบแจ้งหนี้ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเงินนั้นไปถึงมือซัพพลายเออร์เราจริง

เอกสาร “ใบเสร็จรับเงิน” และ “Bank Statement” จึงสำคัญมากๆ สำหรับธุรกิจค่ะ เพื่อให้เรามั่นใจว่าภาระหนี้ของเราหมดกันแล้ว ทุกครั้งที่จ่ายเงินอย่าลืมขอใบเสร็จรับเงินมาด้วยค่ะ และทุกๆ สิ้นเดือนเมคชัวร์อีกสักรอบว่าเงินได้ออกจาก Bank Statement ไปหาผู้รับเงินปลายทางที่ถูกต้องจริงๆ นะ

3. ภาษียื่นให้ครบ
3. ภาษียื่นให้ครบ

3. ภาษียื่นให้ครบ

ยื่นภาษีให้ครบ ทำให้เงินไม่รั่วไหลได้ยังไง ทั้งๆ ที่การยื่นภาษีก็ต้องจ่ายเงินออกไป >> หลายคนคงสงสัยในประเด็นนี้ใช่ไหมคะ

ในความเป็นจริงแล้ว การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดค่ะ ถ้าวันนี้มีภาระภาษีที่ต้องจ่าย แล้วเราไม่จ่ายให้เรียบร้อย สุดท้าย เงินอาจรั่วไหลออกไป ในรูปแบบของ “เบี้ยปรับ/เงินเพิ่มทางภาษี” แบบนี้คงไม่ดีแน่ใช่ไหมล่ะคะ

ดังนั้น ในกระบวนการจ่ายเงิน ต้องเช็คให้ดีค่ะว่าเราต้องยื่นภาษี 2 ตัวนี้หรือไม่

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม เงื่อนไขที่ต้องยื่นเกิดขึ้นเมื่อ กิจการเราจด VAT และซื้อของจากซัพพลายเออร์ที่มี VAT ค่ะ ภาษีซื้อที่เกิด 7% เราจ่ายให้ซัพพลายเออร์แล้ว สุดท้ายตอนสิ้นเดือนอย่าลืมรวบรวมยื่นข้อมูลแก่สรรพากรด้วย ภายใน 15 วันของเดือนถัดไป (อินเตอร์เน็ต 23 วัน)
  2. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ถ้ามีการจ่ายเงินค่าจ้างงาน บริการ หรือค่าเช่า (อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างที่เจอกันบ่อยๆ นะคะ จริงๆ มีอีกเยอะเลย) เราจะต้องหัก ณ ที่จ่ายตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เช่น 3% แล้วนำส่งภาษีแก่สรรพากรด้วยนะ ระยะเวลาก็ภายใน 7 วันของเดือนถัดไป (อินเตอร์เน็ต 15 วัน)

ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอน 3 Step เช็กการจ่ายเงินแบบง่าย ตั้งแต่ต้นจนจน ถ้าทำตามแล้ว รับรองว่าเงินไม่รั่วไหลแน่

ขอบคุณ ภาพตัวอย่างใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงินจาก Flowaccount และตัวอย่าง Bank Statement จาก KBank ค่ะ

อะไรอะไรก็แพง ตั้งแต่ข้าวแกงยันน้ำมันแล้วเจ้าของธุรกิจเอง จะสู้กับรายจ่ายที่แพงขึ้นทุกวันได้อย่างไร เมื่อสู้ไปเท่าไร..รายจ่ายก็สู้กลับทุกที ไม่ต้องกังวลใจไป Zero to Profit มีวิธีวางแผนรายจ่ายดีๆ มาแนะนำกัน จ่ายเงินธุรกิจต้องวางแผนอะไรบ้าง ?

เงินไม่หาย จ่ายเป็นระบบ ปรึกษาเราได้ที่นี่

Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y

ติดตาม Zero to Profit ได้ที่

Website: https://zerotoprofit.co

Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit

#zerotoprofit #จ่ายเงิน

ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บบล็อก Zero to Profit ที่อยากให้เรื่องบัญชีเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวสำหรับเจ้าของธุรกิจ