ปีนี้น่าจะเป็นฤกษ์ดีที่หลายคนตั้งใจจะจดบริษัทเพื่อทำธุรกิจเป็นจริงเป็นจังสักที ถ้าอยากเปลี่ยนจากทำธุรกิจแบบบุคคลธรรมดามาเป็นบริษัทกับเค้าสักที มีเรื่องอะไรบ้างที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้
Zero to Profit มัดรวม 9 เรื่องที่เจ้าของธุรกิจมือใหม่ไม่ควรพลาดมาให้ทุกคนลองและตัดสินใจกันดู รับรองว่าเป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ทุกคนมากๆ เลยค่ะ
1. ทำธุรกิจมาสักพัก เมื่อไรควรเริ่มมีบริษัทของตัวเอง
หลายคนเข้าใจผิดว่า การมีบริษัทเป็นของตัวเองนั้นทำให้ธุรกิจเราดูดีในสายตาคนอื่น จึงทำให้เจ้าของธุรกิจมือใหม่หลายคนเดินหน้าจดทะเบียนบริษัททั้งๆ ที่ยังไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน
3 เรื่องที่เจ้าของธุรกิจต้องคิดว่าจะจดบริษัทดีไหม มีด้วยกันดังนี้
- จดเมื่อพร้อม และจริงจัง ในที่นี้หมายถึง เรามีวัตถุประสงค์การทำธุรกิจที่ชัดเจน และพร้อมที่จะทำงานหนักในฐานะเจ้าของธุรกิจนี้ค่ะ เพราะการจดทะเบียนบริษัทนั้น ทำได้ง่ายเพียงแค่มีเอกสารครบ แต่สุดท้ายถ้าธุรกิจไปไม่รอดอยากจะจดทะเบียนเลิก ขั้นตอนนั้นไม่ง่าย แถมยังต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเยอะเลยค่ะ
- มีผู้ถือหุ้น คำว่า ผู้ถือหุ้น หมายถึง เจ้าของบริษัท ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป โดยต้องตกลงการแบ่งหุ้นให้ชัดเจน แบ่งหน้าที่การทำงานชัดเจน เพื่อตัดปัญหาไม่ให้ทะเลาะกันภายหลัง ถ้าเราคิดง่ายๆ แค่ว่า “คนเงินเยอะ ได้ถือหุ้นเยอะ” อาจทำให้ผู้ก่อตั้งแต่เงินน้อยเสียเปรียบ ทั้งอำนาจการตัดสินใจ และการได้รับเงินปันผลค่ะ
- ประหยัดภาษีไม่ใช่คำตอบสุดท้าย มีคนเข้าใจผิดว่าการเปิดบริษัทช่วยให้เราประหยัดภาษีได้ ยิ่งมีรายได้เยอะ กำไรเยอะ ก็ยิ่งต้องจดบริษัท เพราะว่าฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้นสูงสุดอยู่ที่ 20% (ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 35%) แต่พวกเค้าลืมนึกไปว่าการเปิดบริษัทนั้นมีเรื่องยุ่งยากที่เราต้องจัดการในอนาคตอีกเยอะเลยค่ะ เช่น ทำบัญชี จ้างพนักงานบัญชี ยื่นภาษี ยื่นงบการเงิน
2. จดบริษัท 2 คนได้ไหม ต้องมีใครถือหุ้นบ้าง
ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา กฎหมายอนุญาตให้เจ้าของธุรกิจสามารถจดทะเบียนก่อตั้งโดยผู้ถือหุ้นเพียง 2 คนได้ค่ะ
โดยรายละเอียดและเงื่อนไขทุกคนสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่: จดบริษัท 2 คนทำได้หรือไม่ เริ่มต้นเมื่อไร มีอะไรต้องรู้บ้าง
3. ต้องใช้เงินกี่บาท ถึงจะตั้งบริษัทได้
เงินที่ใช้สำหรับการจดทะเบียนบริษัท เราขอแบ่งออกเป็น 2 ก้อน คือ
1) เงินทุน
เงินทุน ในที่นี้หมายถึง เงินที่คาดว่าต้องใช้ในการลงทุนในธุรกิจ และเงินหมุนเวียนก่อนจะมีรายได้เข้ามา ต้องคิดไว้ล่วงหน้าว่าเราควรมีเงินทุนเท่าไรดี
วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราคิดเงินทุนได้ คือ การทำแผนธุรกิจ ศึกษาความเป็นไปได้ และเงินลงทุนที่ใช้สำหรับธุรกิจนี้อย่างละเอียดเสียก่อนค่ะ
ที่มาของเงินทุนนั้นมาจาก 2 แหล่ง ได้แก่ 1. เงินเรา = เงินทุนจดทะเบียน 2. เงินคนอื่น = หนี้สิน
เมื่อคิดออกแล้วว่าธุรกิจต้องใช้เงินทุนเท่าไร และจะหาเงินทุนมาจากไหน หลังจากนี้ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทก็ไม่ได้ยุ่งยากอีกต่อไปค่ะ
2) ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน
ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนถือเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจ แยกต่างหากจากเงินทุน เพราะค่าธรรมเนียมนี้เป็นเงินที่ต้องจ่ายให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานบัญชีค่ะ (กรณีที่จ้างนักบัญชีช่วยจดให้)
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าจดทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท สำนักงานบัญชีโดยทั่วไปจะคิดเหมารวมกับค่าธรรมเนียมให้ราคา 13,000 – 15,000 บาท เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: จดบริษัทใช้เงินเท่าไร 6 เรื่องต้องรู้ก่อนจดบริษัท
4. How to เตรียมเอกสาร ก่อนตั้งบริษัทของตัวเอง
ประเด็นถัดมาเป็นเรื่องเอกสารที่เจ้าของธุรกิจต้องเตรียมให้พร้อมเสียก่อนที่จะไปจดทะเบียนค่ะ
- กรอกแบบฟอร์มจดทะเบียนให้เรียบร้อย ซึ่งรายละเอียดที่เราต้องกรอกนั้นจะอาศัยข้อมูลสำคัญจากข้อ 2 ค่ะ
- เตรียมเอกสารและข้อมูลพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
- สำเนาบัตรประชาชนผู้เริ่มก่อการและผู้ถือหุ้นทุกคน
- แผนที่ตั้งบริษัท เราต้องวาดออกมาให้เรียบร้อย ระบุถนนให้ชัดเจน และจุดสังเกตสำคัญ ไม่ใช่แผนที่ copy มาจาก google map
- ตรายาง ไม่ได้บังคับว่าต้องมี แต่ถ้ามีก็ต้องจัดทำให้เรียบร้อย
- ติดต่อผู้สอบบัญชีไว้ เพราะต้องระบุข้อมูลชื่อ เลขที่ผู้ตรวจสอบบัญชี และอัตราค่าตรวจสอบบัญชีประจำปีไว้ด้วย
5. จดทะเบียนพาณิชย์ คืออะไร?
การจดเปิดบริษัท หมายถึง การจดเพื่อกำเนิดเป็นนิติบุคคลใหม่ แยกต่างหากจากบุคคล
แต่การจดทะเบียนพาณิชย์ หมายถึง การจดเพื่อบอกว่าเราทำการค้าเป็นแบบพาณิชย์
การค้าขายไม่ว่าในนามบุคคลหรือบริษัท ก็ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ยกเว้น หาบเร่แผงลอย ต้องแสดงใบทะเบียนพาณิชย์หรือใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ไว้ ณ สำนักงานในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายค่ะ
การจดทะเบียนพาณิชย์ต้องไปที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฝ่ายปกครอง สำนักงานเขตทุกแห่ง ส่วนต่างจังหวัดให้ไปเทศบาลหรือ อบต. ซึ่งมีค่าธรรมเนียมแสนถูกที่ 50 บาท เท่านั้นเอง
ตัวอย่างทะเบียนพาณิชย์ดูได้ที่นี่
6. “จด VAT” สำคัญไหม ใครต้องจดบ้าง
การจด VAT หรือจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเรื่องสำคัญหากเราเข้าเงื่อนไข 2 ข้อดังต่อไปนี้
- ประเภทรายได้ไม่ได้รับยกเว้น เช่น ขายพืชผัก
- จำนวนรายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทขึ้นไป
ดังนั้น ถ้ากฎหมายบังคับ ก็ต้องจด เลี่ยงจด Vat ถ้ารายได้เกิน 1.8 ล้าน เหมือนปิดโอกาสเติบโต
เจ้าของกิจการทั้งหลายมักเข้าใจผิดว่าการจด VAT นั้นทำให้ธุรกิจขาดทุนไปอีก 7% แต่จริงๆ แล้ว ความหมายที่แท้จริงของภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% นั้นเราสามารถผลักภาระไปให้ผู้บริโภคได้ เรียกง่ายๆ ว่าต้องบวกราคาขึ้นไปอีก 7% แล้วเก็บเงินส่วนนั้นนำส่งสรรพากรค่ะ
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจด VAT ได้ที่นี่
7. จดบริษัทแล้วจ้างนักบัญชียังไง
รู้หรือไม่ การมีบริษัท กฎหมายกำหนดให้เราต้องมีผู้ทำบัญชี เพื่อบันทึกบัญชีธุรกิจอย่างถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีค่ะ เพราะสุดท้ายแล้ว เราต้องส่งงบการเงินให้กับหน่วยงานรัฐ
แล้วผู้ทำบัญชี หรือที่เรียกกันติดปากว่า “นักบัญชี” นั้นทำหน้าที่อะไรบ้าง ลองไปดูกัน
วิธีการจ้างนักบัญชี เราอาจจะต้องเช็คสถานะธุรกิจตัวเองเสียก่อนว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ มีรายการค้ามากน้อยเพียงใด
เราแนะนำสำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ จ้างบัญชีตาม Step แบบนี้ ซึ่งราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามเนื้องานค่ะ
1) รายการบัญชีน้อย ทำเอง ปิดประจำปี
2) รายการบัญชีเยอะ จ้างนักบัญชีฟรีแลนซ์หรือสำนักงานบัญชี ราคาจะคิดตามปริมาณเอกสารในแต่ละเดือน และความซับซ้อนในการปิดบัญชีประจำปีค่ะ
3) เมื่อจ้างนักบัญชีภายนอกแล้วเริ่มแพงกว่าเงินเดือนนักบัญชีประจำ อาจจะต้องเริ่มจ้างบัญชีประจำแล้วตั้งแผนกบัญชีสำหรับบริษัทภายในไปเลย
8. บัญชีธุรกิจดีช่วยลดภาษีได้อย่างไร
ทุกคนคงคิดไม่ถึงค่ะว่า การทำบัญชีธุรกิจให้ดี ให้ละเอียด และถูกต้องนั้น มีความสัมพันธ์กับภาษีแบบไม่น่าเชื่อ
ความเสี่ยงของธุรกิจ 1 อย่างที่น่ากังวล คือ การต้องเสียภาษีเยอะๆ หรือว่าโดนค่าปรับทางภาษีที่แพงมหาโหด
การทำบัญชีนั้นช่วยลดความเสี่ยงภาษีได้ เพราะถ้าเราทำบัญชีถูก โอกาสคำนวณภาษีก็จะถูกไปด้วย ความเสี่ยงเรื่องค่าปรับ เงินเพิ่มก็จะไม่ตามมาในภายหลัง
และที่สำคัญ การทำบัญชีช่วยให้เราวัดผลการดำเนินงานธุรกิจได้ ช่วยวางแผนอนาคต เพื่อประหยัดภาษีตามเงื่อนไขรัฐบาลด้วยค่ะ
9. บริหารเงินธุรกิจอย่างไร ไม่ให้ขาดมือ
การบริหารเงินธุรกิจไม่ใช่เรื่องไกลตัวค่ะ เพียงแค่เราเข้าใจ 3 หลักการนี้
- เงินสดเข้า ทำยังไงเข้าเร็วขึ้น = ขายเร็ว + เก็บเงินไว
- เงินสดออก ทำยังไงออกช้าลง แต่ไม่ผิดนัด = ขอเครดิตเทอม จ่ายให้เป็นระบบ
- เงินเหลือ พอสำหรับใช้จ่ายอย่างต่ำรายเดือน 2-3 เดือน (ระหว่างรอเงินเข้าจากการขาย)
เมื่อเงินสดเข้ามาเร็ว เราจ่ายออกไปช้า เงินก็จะเหลืออยู่ภายในบริษัทมากขึ้น ด้วยวิธีนี้เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องควักเนื้อหรือไปขอเงินทุนจากผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม
เมื่อไรก็ตามที่สภาพคล่องหรือการเงินของธุรกิจดีแล้ว เมื่อนั้นเราก็สบายใจค่ะว่าธุรกิจจะไม่เจ๊งกลางคัน ในขณะที่เริ่มก่อร่างสร้างตัว
ทั้งหมด 9 ข้อนี้เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และตัดสินใจก่อนที่จะจดทะเบียนเปิดบริษัทเป็นของตัวเองค่ะ อย่างที่บอกว่าการจดเปิดบริษัทนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่ทว่าบริษัทที่เราเปิดขึ้นมาแล้วจะอยู่ได้ยั่งยืนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ยากกว่าเสียอีก ดังนั้น การเตรียมตัว วางแผน ตอบคำถามทั้ง 9 ข้อนี้ไว้ล่วงหน้า จึงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ทุกท่าน “อยู่รอด” ตลอดฝั่งในสังเวียรธุรกิจนั่นเองค่ะ
อบรมบัญชี-ภาษี จากวิทยากรมากประสบการณ์ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit