แม่ค้าออนไลน์ อาชีพใหม่ที่ใครๆ ก็อยากทำ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ
ถ้าไม่รู้เรื่องบัญชีเลย อาชีพที่คิดว่ารุ่งอาจจะนำมาสู่ปัญหาสารพัด
ปัญหาที่แม่ค้าออนไลน์มักพบกันบ่อย เช่น สต๊อกล้นมือ กำไรไม่เหลือ มีของคืนมารัวๆ หรือแม้แต่กระทั่งปัญหากับพี่สรรพากร
ถ้าวันนี้คุณเป็นแม่ค้าออนไลน์อยู่ แต่หนักใจไม่รู้จะจัดการเรื่องบัญชีอย่างไร Zero to Profit จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจ 8 Step คู่มือบัญชีที่แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับปัญหาขายของออนไลน์ไปพร้อมๆ กัน
1. คู่มือบัญชีหน้า 1 แยกบัญชีไว้ก่อนพ่อสอนไว้
ไม่ว่าจะขายของอะไร ร้านเล็กหรือใหญ่ การแยกบัญชีร้านค้าไว้ออกมาจากบัญชีส่วนตัวเป็นเรื่องแรกที่ต้องทำ
วิธีการแยกบัญชีอาจจะเริ่มจากกันเงินลงทุนเอาไว้ 1 ก้อน ใส่บัญชีสำหรับขายของออนไลน์ จากนั้นใช้จ่ายจากบัญชีนี้ เพื่อเตือนใจว่าเงินที่เหลือจากการทำธุรกิจมีเท่าไร และรับเข้า-ออกจากอะไร
ส่วนถ้าใครจดบริษัทแบบจริงจัง การแยกบัญชีเป็นเรื่องที่ต้องทำ (แบบปฏิเสธไม่ได้) โดยเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัทให้เรียบร้อย และให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีนี้ จากนั้นการทำบัญชีหลังบ้านจะง่ายขึ้นอีกเยอะเลย
วิธีเปิดบัญชีนามธุรกิจทำอย่างไร ไปอ่านเพิ่มเติมได้เลย

2.จดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน
ถัดมาเรามาดูคู่มือบัญชีหน้าที่ 2 ที่ว่าด้วยเรื่องของการจดทะเบียนพาณิชย์ค่ะ
การจดทะเบียนพาณิชย์เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย ถ้าประกอบการค้าขายเกิดขึ้น
ทะเบียนพาณิชย์จะเป็นคนละเรื่องกับการจดทะเบียนบริษัท หรือจดทะเบีบนภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉะนั้น อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเราไม่จดบริษัท ไม่ได้จดภาษีมูลค่า จะได้รับยกเว้นการจดทะเบียนพาณิชย์โดยปริยาย

จริงๆ แล้ว การจดทะเบียนพาณิชย์มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งบอกว่าเราทำการค้าอะไร ที่ไหน ภายใต้ชื่ออะไรเพียงเท่านั้น
ฉะนั้น เมื่อเริ่มทำการค้าอย่าลืมไปจดทะเบียนพาณิชย์ที่สำนักงานเขต เทศบาลหรือ อบต. ให้เรียบร้อยภายใน 30 วันที่เริ่มประกอบกิจการ ค่าธรรมเนียมก็อยู่ที่ 50 บาทเพียงเท่านั้น
และถ้าใครยังสงสัยว่าจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทำอย่างไร อ่านเพิ่มเติมในนี้ได้เลย
3.จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนรายได้ทะลุ 1.8 ล้าน
ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่แม่ค้าออนไลน์ทุกคนจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) แต่เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า รายได้ของเราเป็นประเภทไหน และเราต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
เพราะเงื่อนไขของการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มี 2 เงื่อนไขหลักๆ ตามนี้
- เป็นรายได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้น เช่น ขายหนังสือออนไลน์ ขายพืชผัก
- รายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทต่อปี

ถ้าเข้าใจประเภทรายได้ และจำนวนรายได้ที่มี แน่นอนว่าเราตัดสินใจได้แน่นอนว่าต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไหม
แม่ค้าออนไลน์ที่ตกม้าตายส่วนใหญ่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี แล้วไม่ได้จดและส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม สุดท้ายโดนค่าปรับย้อนหลัง เสียทั้งเงินและเวลากว่าจะเคลียร์กับสรรพากรจบ
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทำยังไง ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง คลิกอ่านเพิ่มเติมได้เลยจ้า
4.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
แม่ค้าคนไหนที่จดทะเบียนเป็นบริษัทอยู่แล้วไม่น่าเป็นห่วงมาก เพราะการทำบัญชีต้องมีสำนักงานบัญชีดูแล และทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว
แต่ถ้าใครเป็นแม่ค้ามือใหม่ ยอดรายได้ยังไม่เยอะมาก หรืออยู่ในระหว่างเริ่มต้น ยังไม่ได้จดเป็นบริษัท การทำบัญชีรายได้รับ-รายจ่าย เป็นเรื่องที่เราต้องทำ เพื่อให้มั่นใจว่าเรายังมีกำไรในทุกๆ วันที่ทำธุรกิจ

และที่สำคัญการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นหลักฐานชั้นดีในการยื่นภาษีส่วนบุคคลตอนปลายปีด้วยเช่นกัน
วิธีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างไรให้ง่ายและถูกใจสรรพากรดูที่นี่: ทำบัญชีขายของออนไลน์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
5.คุมสต๊อกสินค้าให้เป็นระบบ
อย่างที่เคยบอกไปว่าสต๊อกสินค้านั้นเป็นปัญหาของแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คน เพราะเราลงทุนซื้อสินค้ามาตุนไว้ แต่ในบางครั้งมันก็ไม่ได้ปังอย่างที่คิด หรือในบางทีขายดีมาก ลูกค้า CF รัวๆ แต่แม่ค้าเองไม่รู้ว่าเหลือสต๊อกสินค้าเท่าไร ทำให้เสียโอกาสในการขายถ้าสั่งของมาไว้ไม่เพียงพอ

ฉะนั้น นอกจากจะขายของเก่งแล้ว อย่าลืมทำรายงานคุมสต๊อกสินค้าอย่างสม่ำเสมอ จะได้วางแผนสั่งซื้อแบบไม่ขาดมือ หรือตัดสินใจเคลียร์สินค้าที่ล้นมือได้ง่ายขึ้น
6.เข้าใจค่าใช้จ่ายในการขาย
ไม่มีใครเข้าใจค่าใช้จ่ายของเราเท่ากับตัวเราเอง บางทีแม่ค้าออนไลน์สนใจแค่ต้นทุนสินค้า แต่ลืมไปว่าการขายของได้แต่ละชิ้นก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการขายเกิดขึ้นเช่นกัน
ค่าใช้จ่ายในการขาย คือ ค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปให้สินค้าขายได้ ขายเร็ว และขายดี หรือบางทีอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย

ยกตัวอย่างเช่น
- ค่าคอมมิชชั่น หรือ GP ที่จ่ายให้เจ้าของ platform ขายของออนไลน์ต่างๆ
- ค่าถ่ายรูปโปรโมทสินค้า
- ค่าขนส่งสินค้า
- ค่าธรรมเนียมรูดบัตรเครดิต หรือให้ลูกค้าผ่อนบัตรเครดิต
ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ถ้าสังเกตดีๆ มันจะผันแปรไปพร้อมๆ กับยอดขาย นั่นหมายความว่า สินค้าราคา 100 บาท นอกจากต้องหักต้นทุนขายสินค้าและยังมีค่าใช้จ่ายในการขายเหล่านี้เพิ่มเติมมาอีกด้วย
7.เข้าใจเอกสารทั้งหมด
ถ้าไม่อยากปวดหัวภายหลัง การเข้าใจวงจรเอกสารเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ทั้งเอกสารการรับเงิน และเอกสารการจ่ายเงิน เพราะเอกสารเหล่านี้เป็นตัวช่วยยืนยันรายการค้ากับบุคคลภายนอก

เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจเอกสารการขาย
แล้วต่อด้วยเอกสารค่าซื้อและค่าใช้จ่าย
ถ้าเข้าใจครบทั้ง 2 กระบวนการนี้ รับรองว่าแม่ค้าออนไลน์จะจัดการงานหลังบ้านได้ดีขึ้นอีกหลายเท่าเลยแหละ

8.อ่านงบการเงินให้เป็น
เรื่องสุดท้ายที่อยากฝากไว้สำหรับแม่ค้าออนไลน์ก็คือ เรื่องของการอ่านงบการเงิน
เพราะเราไม่มีวันรู้ผลประกอบการและสถานะของธุรกิจเลยถ้าอ่านงบการเงินไม่เป็น งบขั้นต่ำที่แม่ค้าออนไลน์ต้องอ่านได้ มี 2 งบคือ
- งบกำไรขาดทุน ที่บอกว่าธุรกิจมีผลประกอบการอย่างไร มีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายและได้กำไรไหม
- งบแสดงฐานะการเงิน ที่บอกว่าเปิดร้านขายของออนไลน์แล้วสุดท้าย เราในฐานะเจ้าของรวยขึ้นหรือไม่
จบไปแล้วกับ 8 Step เรื่องบัญชีที่แม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายต้องรู้ นอกจากจะพรีเซนต์ปัง ขายของเก่ง สิ่งที่ขายไม่ได้คือ การวางระบบหลังบ้านอย่างงานบัญชีไว้ตั้งแต่เริ่ม
ถ้ารากฐานงานหลังบ้านเราแข็งแรง ถึงแม้ฝนจะตกหนักเท่าไร ฟ้าจะร้องแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรทำให้บ้านเราพังไปต่อหน้าต่อตาอย่างแน่นอน
เพิ่งเปิดร้านใหม่ อยากเข้าใจบัญชีให้มากขึ้น ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit