สิ่งที่คนทำธุรกิจกลัวที่สุดเรื่องนึงก็คือ “การเจ๊ง”
เพราะการเจ๊ง หมายถึง เงินลงทุน เวลา และความทุ่มเท ที่ลงไปนั้นเสียเปล่า และบางครั้งมันอาจหมายถึงอนาคตของคนที่รักในครอบครัวอีกด้วย
ทุกๆ ครั้งที่ธุรกิจกำลังจะแย่ มักจะมีสัญญาณเตือนมาก่อนล่วงหน้า จากตัวเลขทางบัญชี
แล้วจะดีมั้ย ถ้าวันนี้เราเรียนรู้ว่า สัญญาณไม่ดีที่อาจทำให้ธุรกิจแย่มีอะไรบ้าง แล้วเราจะเช็คเรื่องเหล่านี้จากตรงไหน?
วันนี้ Zero to Profit จะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจ 5 สัญญาณไม่ดี ที่ธุรกิจต้องระวัง ลองมาดูไปพร้อมๆ กัน
1.ขาดทุนติดต่อกันหลายปี
ทำธุรกิจ ขาดทุนปีเดียวอาจจะยังไม่น่ากลัวเท่าไร แต่ถ้าเมื่อไรขาดทุนติดต่อกันหลายๆ ปีล่ะก็ รู้ไว้เลยว่านี่คือ สัญญาณอันตราย
วิธีเช็ค: อ่านงบกำไรขาดทุน บรรทัดสุดท้าย จะรู้เลยว่าขาดทุนแต่ละปีเท่าไรกันแน่
ตัวอย่างเช่น: ถ้าเราเช็คงบกำไรขาดทุน ปี 61-64 จะเห็นว่าในปี 61 มีกำไรอยู่ 20 บาทก็จริง แต่หลังจากธุรกิจเริ่มขาดทุนทุกๆ ปีเลย เมื่อรวมๆ กันแล้วจะพบว่าธุรกิจมีขาดทุนสะสม = 20-100-120-180 = -380 บาท
นั่นหมายถึง ทุกปีที่ผ่านไปไม่ได้สร้างกำไรเข้ามาในกิจการให้เพิ่มขึ้นเลย แถมเงินที่ลงทุนไว้ก็เริ่มจะติดลบเพราะธุรกิจมีขาดทุนสะสม และเมื่อไรก็ตามขาดทุนสะสมนี้เริ่มจะเยอะเกินกว่าทุนที่เคยลงไว้ อาจจะต้องถึงเวลาปิดกิจการจริงๆ แล้วล่ะ
2.ระยะเวลาเก็บหนี้นาน
แน่นอนว่าทำมาค้าขาย ก็ต้องมีแบบเงินสดและแบบเงินเชื่อ เมื่อธุรกิจมีการขายแบบเงินเชื่อเยอะๆ จะทำให้มีลูกหนี้การค้าในงบการเงิน และถ้าเราเก็บหนี้ไม่ได้สักที อาจเป็นสาเหตุให้กระแสเงินสดของกิจการติดขัด และอาจต้องเลิกธุรกิจไปในที่สุด
วิธีเช็ค: คำนวณระยะเวลาในการเก็บหนี้จากสูตรนี้ = 365*(ลูกหนี้การค้าเฉลี่ย/รายได้)
ตัวอย่างเช่น: ถ้าปีนี้ มีลูกหนี้การค้า = 330 และรายได้ = 600 บาท จะคำนวณระยะเวลาในการเก็บได้เท่ากับ = 365*(330/600) = 200 วัน
แล้วถ้าลองเปรียบเทียบกับระยะเวลาในการเก็บหนี้จากปีก่อนๆ จะพบว่ามีจำนวนวันเพิ่มขึ้นจากปี 62 – 64 จาก 90 วัน ถึง 200 วัน ทั้งๆ ที่กิจการเราให้เครดิตแค่ 60 วันเท่านั้น
ตีความง่ายๆ จากตรงนี้ แปลว่ากิจการเราเก็บเงินได้ช้าขึ้นเยอะกว่ามาตรฐานมาก ฉะนั้น ปัญหาที่ตามมาคือ อาจขาดสภาพคล่องในเวลาอันใกล้
3.หนี้สูญเพิ่มมากขึ้น
หนี้สูญ หมายถึง ลูกหนี้ที่กิจการพยายามเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถเก็บเงินได้
หนี้สูญที่เพิ่มขึ้น เป็นปัญหาต่อเนื่องจากลูกหนี้ที่เหนียวหนี้ ใช้เวลาในการเก็บหนี้นานๆ เมื่อขายสินค้าแล้ว เก็บเงินได้ช้า สุดท้ายติดต่อไม่ได้เลย กลายเป็นปัญหา กิจการต้องตัดจำหน่ายหนี้สูญตัวหนี้ออกจากลิสลูกหนี้การค้า กลายเป็นว่าสินค้าที่ขายได้ก็ไม่ได้รับเงินเข้ามาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
วิธีเช็ค: เราอาจไม่เห็นจำนวนหนี้สูญในหน้างบการเงิน แต่จะสังเกตได้จากหมายเหตุประกอบงบการเงิน ที่มีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเอาไว้ เป็นส่วนหักลดออกจากลูกหนี้การค้า และจะระบุจำนวนหนี้สูญที่ตัดทิ้งในแต่ละปีไว้ต่างหากด้วย
ตัวอย่างเช่น: ถ้างบการเงินปี 62-64 แสดงลูกหนี้การค้าจากการขายสินค้าได้ไว้ที่ 100-150 บาท แต่จริงๆ แล้วมูลค่าสุทธิเหลือแค่ 80-90 บาท ให้เช็คก่อนเลยว่าน่าจะมีหนี้สงสัยจะสูญเกิดขึ้น ตั้งแต่ 20 บาทในปี 62 และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็น 60 บาท ในปี 64
ถ้าเห็นแบบนี้แล้วต้องลองตั้งต้นจากการสกรีนลูกค้าดีๆ รวมไปถึงคิดหาวิธีในการเก็บหนี้ให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากยิ่งขึ้น
4.สินค้าคงเหลือสูง
แม้ว่าสินค้าคงเหลือจะเป็นสินทรัพย์ของกิจการก็จริง แต่การมีสินค้าเหลือมากๆ บางทีก็กลายเป็นความเสี่ยงของกิจการด้วย เพราะสินค้าที่เหลือเยอะๆ อาจเป็นสินค้าที่ขายไม่ได้ และทำให้เงินทุนธุรกิจส่วนใหญ่ไปจมอยู่ในนั้น
วิธีเช็ค: ดูจากยอดรวมสินค้าคงเหลือที่เป็นสินทรัพย์ในงบแสดงฐานะการเงิน
ตัวอย่างเช่น: ถ้าในงบแสดงฐานะการเงิน แสดงสินค้าคงเหลือจากปี 62-64 สูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี จากเดิม 100 บาท กลายเป็น 220 บาท และ 500 บาท ภายใน 3 ปี แบบนี้เรียกว่าผิดปกติแล้ว เจ้าของธุรกิจต้องรีบแก้ปัญหาสินค้าคงเหลือเกินความจำเป็นแบบด่วนๆ
5.สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของเจ้าของสูงมาก
ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ไปไม่รอด นอกจากจะขาดทุนแล้ว อีกองค์ประกอบนึงก็คือ การมีหนี้สินล้นพ้นตัว คือ เริ่มมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากกว่าส่วนของเจ้าของ
วิธีเช็ค: คำนวณอัตราส่วนหนี้ต่อส่วนของเจ้าของ โดยใช้ข้อมูลจากงบแสดงฐานะการเงิน
ตัวอย่างเช่น : ถ้าธุรกิจที่เราทำอยู่มีหนี้สิน 1000 บาท แต่ส่วนของเจ้าของมีแค่ 500 บาท
คำนวณอัตราส่วนหนี้ต่อส่วนของเจ้าของ = 1000/500 = 2 เท่า แปลว่า สินทรัพย์ทั้งหมดที่มีของกิจการ ส่วนใหญ่เกิดจากหนี้สินเป็นหลัก ฉะนั้น เมื่อไรที่กิจการมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายชำระหนี้ เมื่อนั้นเจ้าของธุรกิจอาจจะล้มแบบไม่มีทางเลือก
สรุปอีกครั้ง 5 สัญญาณไม่ดี ที่ธุรกิจต้องระวัง พร้อมวิธีเช็ค จากตัวเลขบัญชีมีดังนี้
ถ้าวันนี้ธุรกิจกำลังเจอสัญญาณเตือนภัยแบบนี้อยู่ คุณมีทางเลือกสองทาง คือ 1. พยายามแก้ไขและสู้ไปกับมัน 2. วางแผนล้มแบบเจ็บตัวน้อยสุด
ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน อย่าลืมว่าทำธุรกิจแพ้ ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต นี่อาจจะเป็นการแพ้เพื่อลุกขึ้นใหม่อย่าง Strong อีกครั้งก็เป็นได้
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ หาโปรแกรมบัญชีที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: https://facebook.com/ZerotoprofitTH/
Blockdit: https://www.blockdit.com/zerotoprofit