เจ้าของธุรกิจคนไหนกำลังเจอปัญหาไม่มีกำไร ทั้ง ๆ ที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่ากันบ้างคะ? รู้หรือไม่ สาเหตุอาจเป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังใช้วิธีคำนวณกำไรผิดอยู่หรือเปล่า? ถ้าใช่ล่ะเรื่องใหญ่แน่นอนค่ะ
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าตัวเองคิดกำไรผิดไหม ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะบทความนี้มีวิธีคิดกำไรสินค้าที่เข้าใจง่าย แถมยังช่วยป้องกันขาดทุนมาฝากกัน จะมีวิธีอะไรบ้าง ตามมาดู แล้วก็ลองหัดคำนวณไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ทำความรู้จักกับ ต้นทุนขาย สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ
ถ้าจะคิดกำไรแบบชัวร์ๆ ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจเรื่องต้นทุนขายสินค้ากันก่อน
ต้นทุนขาย เป็นต้นทุนของสินค้า ซึ่งประกอบด้วยค่าใช้จ่ายสำหรับตัวสินค้าเอง และค่าใช้จ่ายแฝงที่เกิดจากการผลิตหรือขนส่งสินค้าเข้ามาด้วยค่ะ โดยจะขอแบ่งออกเป็น 2 กรณีให้เข้าใจง่าย ๆ คือ
- กรณีธุรกิจผลิตสินค้าเอง ต้นทุนขายก็จะมีค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าเครื่องจักร รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าโดยตรง
- กรณีธุรกิจไม่ได้ผลิตสินค้าเอง จะเป็นการซื้อสินค้าจากร้านค้าขายส่ง บวกกับค่ารถ ค่าแรงคนขนส่งสินค้ามาให้เราค่ะ ซึ่งราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เสียไปก็คือต้นทุนขาย
โดยต้นทุนขายจะมีความสำคัญต่อธุรกิจมาก ๆ เพราะว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการกำหนดราคาขายสินค้าที่เหมาะสม เพื่อให้ได้กำไรตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยในบทความนี้มีวิธีคิด กำไรมาฝากเจ้าของธุรกิจทั้งหมด 2 วิธีด้วยกันค่ะ
2 วิธีคิดกำไรจากการขาย
การคำนวณกำไรทั้ง 2 วิธีนี้จะมีความแตกต่างกัน นั่นคือ คิดจากต้นทุน และคิดจากยอดขาย ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันตามไปด้วยค่ะ โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
1. การคิดกำไรจากต้นทุน
เป็นการเอาราคาต้นทุนขายสินค้าเป็นสารตั้งต้น และคำนวณจากต้นทุนที่มีว่าจะได้กำไรเท่าไร ทั้งนี้ จะต้องรู้ต้นทุนของสินค้าก่อน แล้วคูณด้วยเปอร์เซ็นต์ (%) ที่ต้องการ ก็จะได้ตัวเลขที่จะได้กำไร จากนั้นบวกรวมกับราคาต้นทุนสินค้าอีกที ก็จะได้ราคาขายที่รวมกำไรค่ะ
ยกตัวอย่าง เช่น
บริษัท Zero to Profit จำกัด ทำธุรกิจผลิตและขายอาหารกล่องเพื่อสุขภาพ ต้นทุนของอาหารกล่องเพื่อสุขภาพอยู่ที่ 30 บาท อยากได้กำไรเข้ากระเป๋าประมาณ 30% จากต้นทุน เมื่อใช้สูตรนี้คำนวณกำไรก็จะได้
กำไรจากต้นทุน = 30% x 30 = 9 บาท
ราคาขายอาหารกล่องเพื่อสุขภาพ 1 กล่อง = 30 + 9 = 39 บาท
2. การคิดกำไรจากยอดขาย
เป็นการเอาราคาขายสินค้าเป็นสารตั้งต้น เพื่อคำนวณว่าถ้าตั้งราคาขายประมาณนี้จะมีกำไรกลับมาเท่าไร หรือการคำนวณ Profit Margin (กำไรขั้นต้น)
วิธีนี้ต้องมโนนิดนนุงก่อน โดยเอาเปอร์เซ็นต์ของกำไรที่ต้องการ คูณด้วยราคาที่จะขาย อาจจะเป็นราคาขายสินค้าตามราคาตลาด ก็จะรู้ตัวเลขของกำไรที่จะได้รับจากยอดขายที่ตั้งไว้ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
บริษัท Zero to Profit จำกัด ทำธุรกิจผลิตและขายอาหารกล่องเพื่อสุขภาพ สมมติว่าตั้งราคาขายอยู่ที่ 43 บาท และต้องการกำไรเข้ากระเป๋าซัก 30% เมื่อใช้วิธีคิด กำไรสูตรนี้ก็จะได้
กำไรจากยอดขาย = 30% x 43 = 13 บาท
และจากตัวเลขกำไรที่คำนวณได้ เราเองก็ต้องย้อนกลับมาควบคุมต้นทุนขาย ให้ไม่เกินไปกว่า 43-13 = 30 บาท
ความแตกต่างระหว่าง คิดกำไรจากต้นทุน vs คิดกำไรจากยอดขาย
จะเห็นได้ว่า วิธีคิด กำไรจากต้นทุน กับวิธีคิด กำไรจากยอดขาย แม้ตัวเลข 30% จะเหมือนกัน แต่คำนวณออกมาแล้วกลับได้มูลค่ากำไรของสินค้าที่ต่างกันค่ะ
การคำนวณกำไรจากต้นทุน จะเป็นการคำนวณกำไรโดยคิดจากต้นทุนของสินค้า 1 หน่วย ซึ่งจะเป็นการโฟกัสเฉพาะต้นทุนเท่านั้น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น
- ข้อดี = คำนวณง่าย ใช้ข้อมูลต้นทุนที่เรามีอยู่แล้ว
- ข้อเสีย = หากจำนวนต้นทุนไม่ถูกต้อง หรือประมาณต้นทุนต่ำเกินไป ผลลัพธ์กำไรก็ไม่ถูกต้องไปด้วย และยังไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารมารวมคำนวณอีกด้วย
ซึ่งหากมีต้นทุนอื่นๆ แอบแฝง แต่เราไม่ได้นำมาวิเคราะห์ราคาให้ครบถ้วน ก็อาจจะขาดทุนได้เลยนะคะ
ส่วนการคำนวณกำไรจากยอดขาย จะเป็นการคำนวณกำไรโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขาย ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นสูง เมื่อสินค้ามีการเปลี่ยนแปลงราคาตามตลาดค่ะ
- ข้อดี = เมื่อคิดกำไรที่ได้จากยอดขายนี้แล้ว จะยังเหลือเงินที่เหลืออยู่ให้สามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ เช่น กำไร 13 บาท ค่าต้นทุน 30 บาท ค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร 5 บาทต่อหน่วย เป็นต้น ทำให้เราสามารถรู้กำไรที่แท้จริงหลังหักค่าใช้จ่ายอื่นๆได้แน่นอน
- ข้อเสีย = หากราคาขายที่ตั้งไว้สูงเกินไป อาจทำให้กำไรสูงเกินจริง ต้องใช้ราคาขายหัก ส่วนลดต่างๆเรียบร้อยแล้วเท่านั้น และมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมต้นทุนให้อยู่ในเป้าที่วางไว้
สรุปแล้วเราควรคิดกำไรจากวิธีไหนถึงจะปลอดภัยที่สุด
หากเอา 2 วิธีนี้มาเทียบกันนะคะ จะเห็นได้ว่า วิธีคิด กำไรจากต้นทุน จะเป็นการเอากำไรที่ต้องการมาบวกเพิ่มกับต้นทุนเลย 30% โดยที่ยังไม่รวมปัจจัยอื่น ๆ สุดท้ายพอได้กำไรมา 9 บาท ใน 9 บาทนี้ยังต้องหักลบกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ (ที่นอกเหนือจากต้นทุน เช่น ค่าเช่าที่ ค่าทำบัญชี ค่าน้ำ ค่าไฟ) สุดท้ายจะเหลือกำไรจริง ๆ กี่บาท?
ในขณะเดียวกัน วิธีคิด กำไรจากราคาขายก็เหมือนคล้าย ๆ กับการเอาราคาขายที่ต้องการจะขายมาแบ่งส่วนอีกทีว่า หากต้องการกำไร 30% จะได้กี่บาท ส่วนอีก 70% ของราคาขาย จะเป็นต้นทุนที่เหลือให้สามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ และไม่ว่าราคาขายจะอยู่ที่เท่าไหร่ จำนวนกำไร กับจำนวนต้นทุนก็จะยืดหยุ่นได้เสมอ
เพราะฉะนั้น วิธีคิดกำไรที่ปลอดภัยที่สุด คือ การคำนวณจากยอดขายนั่นเองค่ะ
ประโยชน์ของการรู้ “กำไร” ในธุรกิจ
กำไรเปรียบเสมือนกับสุขภาพของธุรกิจเลยค่ะ ยิ่งรู้ ยิ่งมองเห็นทิศทางของธุรกิจได้ชัดยิ่งขึ้นว่า กำลังเติบโตไปในทิศทางที่ถูกที่ควรหรือเปล่า ดังนั้น การรู้กำไรของธุรกิจจะมีประโยชน์มากมายเลยค่ะ
- ช่วยให้ทราบสุขภาพที่แท้จริงของธุรกิจ หากกำไรเป็นบวก = ธุรกิจมีรายได้มากกว่ารายจ่าย
- เป็นสารตั้งต้นในการคำนวณหาต้นทุนจริง ๆ ก่อนตั้งราคาขายสินค้า
- เป็นข้อมูลในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนได้ เช่น การตั้งเป้าหมาย การขยายธุรกิจ
- ช่วยให้วางแผนการทำตลาด ทำราคาจากคู่แข่งได้แม่นยำ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในธุรกิจอุตสาหกรรมเดียวกัน
สรุป
พอจะเข้าใจวิธีการคิดกำไรแบบง่ายๆ บ้างแล้วใช่ไหมคะ อย่าลืมเอาไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจตัวเอง เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนขายของ จะได้มั่นใจว่า เราตั้งราคาขายได้เหมาะสม และมีกำไรแท้จริงในธุรกิจนะคะ
หรือถ้าใครอยากอัปเลเวลไปมากกว่านั้น แนะนำลองหัดอ่านงบกำไรขาดทุน เพื่อเข้าใจภาพรวมธุรกิจว่ามีกำไรสุทธิจริงๆ เท่าไรนะ ได้ที่นี่เลย: งบกําไรขาดทุน คืออะไร ทำความเข้าใจงบกำไรขาดทุน 101
รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องบัญชี ทำให้ธุรกิจมีกำไรเพิ่ม ติดต่อ Line: @zerotoprofit